สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย ชงรัฐบาลกดดันกำจัดรถเก่าเกิน 10 ปี ด้วยโครงสร้างภาษี พร้อมเตรียมออกมาตรการกำจัดซากรถไม่ใช้แล้ว
กลายป็นประเด็นร้อนในวงการยานยนต์ทันที หลังจากที่มีการออกมาเปิดเผยยอดภาพรวมอุตสาหกรรมในประเทศ ที่มีการขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ในช่วง 10 เดือนแรก ทำให้ สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย เตรียมหารือกับรัฐบาล ออกมาตรการสำคัญ โละทิ้งรถเก่าที่มีอายุเกิน 10 ปี โดยกำจัดรถที่มีอายุการใช้งานนานเกิน 10 ปี และ ซากรถเก่าที่ไม่ใช่แล้ว พร้อมกันนี้ ยังให้เงินสนับสนุนในการซื้อรถยนต์คันใหม่ ด้วย
เรื่องดังกล่าวมาจาก นาย ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า ในกลางเดือนนี้จะเข้าหารือกับ กรมสรรพสามิต 2 เรื่อง ได้แก่ กองทุนจัดการแบตเตอร์รี่รถไฟฟ้า และ กองทุนจัดการรถเก่าและซากรถ
สำหรับแนวคิดเรื่องการจัดการรถเก่า และซากรถ ถือเป็นมาตรการเร่งด่วน จากสภาพเศรษฐกิจ ชะลอตัว จึงต้องการทำให้เกิดการกระตุ้นซื้อรถใหม่ในประเทศ
นายครรชิตกล่าวว่า แนวคิดนี้ คือการให้ผู้ที่ครอบครองรถเก่า หรือมีซากรถ มาผ่านกระบวนการรีไซเคิล อย่างเป็นระบบมีมาตรฐาน หรือ ถอดชิ้นส่วนออกไปทำอย่างอื่นอย่างมีขั้นตอน อาจจะจัดตั้งเป็นกองทุน คนที่มาทำตามกระบวนการก็จะได้รับเงินสนับสนุน หรือเป็นเปอร์เซ็นส่วนลด ในการซื้อรถคันใหม่ โดยจะได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย (เงินมาจากกองทุนตอนซื้อรถใหม่)
ส่วนเรื่องใครจะเป็นเจ้าภาพงานนี้ กำจัดซากรถ ก็ต้องไปตกลงกันอีกที แต่ในอนาคตหากมีผู้ประกอบการเอกชนเห็นโอกาสก็อาจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจกำจัดซากนี้
ในข่าวเดียวกัน ทาง ฐานเศรษฐกิจ ยังมีโอกาส ไปสัมภาษณ์ นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งกล่าวสนับสนุนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีช่องโหว่ในเรื่องรถเก่า ไม่มีกฎหมายมาบังคับควบคุม จัดการ รถเก่าหรือซากรถ ทำให้ล้นตลาด
ทั้งนี้ปัจจุบัน มีการจัดเก็บภาษีรถยนต์ประจำปีของประเทศไทย เป็นแบบอัตราถดถอย โดยรถปีที่ 1-5 จะจัดเก็บตามเพดานภาษีปกติ (100%) หลังจากนั้น จัดเก็บในอัตราภาษีถดถอยลง โดย ปี ที่ 6 ลดลง 10% และลดต่อเนื่องทุกปี ปีละ 10% จนกระทั่งปีที่ 10 เป็นต้นไป จะได้ส่วนลดทางภาษี 50% ไปจนกว่าจะเลิกใช้รถยนต์คันดังกล่าว
ที่มาข่าว ฐานเศรษฐกิจ