Home » Toyota เดินหน้าทดสอบ GR86 วางเครื่องเทอร์โบ 300 แรงม้า
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Toyota เดินหน้าทดสอบ GR86 วางเครื่องเทอร์โบ 300 แรงม้า

แม้ว่าหนึ่งในจุดขายสำคัญของ Toyota GR86 คือเครื่องยนต์ลูกใหม่ขนาด 2.4 ลิตร ที่ใหญ่กว่ารุ่นพี่ แต่มันเพราะยังเป็นเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ ซึ่งไม่ถูกใจใครหลายๆคน จึงดูเหมือนว่าทาง Toyota จะเริ่มเดินโปรเจ็กท์เอาเครื่องฯเทอร์โบมาทดสอบกับตัวรถรุ่นนี้กันแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการรายงานจากสื่อฯออสเตรเลียที่ระบุว่า CarSales ที่ระบุว่า ในขณะนี้ ทาง Toyota ได้กำลังทำโปรเจ็กท์สร้างรถแข่งคันใหม่จากพื้นฐานของ GR86 กันอยู่ ซึ่งจุดน่าสนใจของเจ้าตัวแข่งที่ว่าก็คือ มันจะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ดั้งเดิมของตัวรถ แต่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง พ่วงเทอร์โบ รหัส G16E-GTS ที่ยกมาจาก GR Yaris และ GR Corolla แทน

โดยหากเทียบกับแบบหมัดต่อหมัด ในขณะที่เครื่องยนต์ 4 สูบนอน ขนาด 2.4 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ลูกดั้งเดิมที่อยู่ใน GR86 จะสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 231 PS และแรงบิดสูงสุดอีก 250 นิวตันเมตร แต่เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 1.6 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์แล้ว ฝ่ายหลังจะมีแรงม้าที่มากกว่ากันพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันอยู่ใน GR Corolla ที่ถูกปรับจูนจนสามารถเค้นแรงม้าได้หลัก 304 PS กับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

แต่ก่อนที่จะตื่นเต้นไปกันใหญ่ แท้จริงแล้ว ดูเหมือนว่าตัวรถ GR86 Turbo ที่ทาง Toyota กำลังทดสอบกันอยู่นั้น จะไม่ใช่ตัวแข่งเพื่อพัฒนาเป็นรถขายจริงในระยะเวลาอันใกล้ แต่เป็นตัวรถที่ถูกปรับแต่งเพื่อส่งลงการแข่งขันซุปเปอร์ไทคิว ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการแข่งขันที่ทางค่ายใช้เป็นสนามทดสอบโปรเจ็กท์รถยนต์วางขุมกำลังสันดาปภายในด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่พร้อมขายจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แน่นอน

ทั้งนี้ เมื่อทางสื่อต้นทาง ได้มีการสัมภาษณ์นาย Naoyuki Sakamoto ซึ่งเป็นหัวหน้าวิศวกรฝ่ายงาน Gazoo Racing ของ Toyota ว่า พวกเขามีโอกาสที่จะทำเจ้า GR86 Turbo เชื้อเพลิงไฮโดรเจนคันนี้ออกมาขายจริงหรือไม่ ? ซึ่งจุดน่าสนใจก็คือเจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด และให้คำตอบเอาไว้ว่า “ใช่, เราก็ได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้มันในอนาคตอยู่, แต่มันก็ยังไม่มีแผนงานที่แน่ชัดอะไรทั้งนั้น”

“ในตอนนี้, เราแค่ใช้มันเพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดเท่านั้น”

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.