หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปีของ HAVAL XIAOLONG MAX โดยเหตุที่ต้องปรับโฉมเร็วเพราะที่ผ่านมายอดขายในจีนน้อย

และหลังจากปรับโฉมพร้อมประกาศราคา HAVAL XIAOLONG MAX (หรือชื่อที่เตรียมจะใช้ในตลาดสากล HAVAL B07) ทำให้ยอดจองหลังเปิดตัวเพียง 1 วัน กวาดยอดไปมากกว่า 16,368 คัน
ปรับครั้งใหญ่ทั้งหน้าและหลังเริ่มที่ชุดไฟหน้า LED แบบแถบ 72 ชุด ไฟประกอบด้วยไฟหน้า 2 ดวง พร้อมไฟ Daytime แบบ LED คาดยาว รับกับกันชนหน้าทรงlสปอร์ตที่มีช่องระบายอากาศทรงสามเหลี่ยมเสริมคิ้วชายล่างใต้กันชนหน้า
มาพร้อมเสาอากาศครีบฉลาม หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ราวหลังคาเรียบเนียนกับหลังคารถ กรอบกระจกสีดำ คิ้วขอบล้อทรงกลมกลมกลืนกับคิ้วชายล่างสีดำกระจกเสา C กับ D ออกแบบบานใหญ่เป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีเสา D มากั้น
ติดตั้งสปอยเลอร์หลังกับไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟท้ายแบบ LED แนวยาวแบบ “Bright Galaxy” สีแดงอัลตรา 628 นาโนเมตรจำนวนดวงมากถึง 332 จุด เดียวกับด้านหน้าขอบไฟท้ายแบบเป็นแฉก กันชนหลังมีลิ้นสปอยเลอร์ใต้กันชนขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยลายทูโทน 5ก้าน ขนาด 19 นิ้ว
ภายในใหม่หมดด้วยชุดจอขนาดใหญ่ 2 จอในชุดแผงคอนโซลหน้ามาพร้อม Coffee OS 3 ระบบปฏิบัติงานในห้องโดยสารอัจฉริยะพร้อมชิปจาก Snapdragon 8155 มาพร้อมกับการอัปเกรดระบบ Firmware Over The Air (FOTA) ทั้งชุดมาตรวัดความเร็วดิจิทัล 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้วควบคุมระบบความบันเทิงและแสดงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
จอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (W-HUD) พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงแปลกตา คอนโซลเกียร์ลาทีกับคันเกียร์กลายเป็นเกียร์แบบปุ่มกด เบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สายสองฝั่งขนาด 50 W และไฟ Ambient 64 สี
ขุมพลังเป็นปลั๊กอินไฮบริด Hi4 จากเบนซินขนาด 1.5 ลิตร 116 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งหน้าและหลังแบบอีมอเตอร์ให้กำลังล้อหน้า 95 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร และล้อหลัง 204 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรและเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้าสูงถึง 324 แรงม้า แรงบิด 585 นิวตันเมตร
กับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LiFePO4) 2 แบบ เริ่มที่ขนาด 18.74 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 110 กิโลเมตร (CLTC) และขนาด 27.54 kWh วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้า 165 กิโลเมตร (CLTC) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT 2 สปีด
พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 9 โหมดในสองโหมดหลักทั้ง Hybrid และโหมด EV พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (ADAS) จาก Coffee Pilot Plus ใช้โซลูชันกล้องแบบเพียววิชั่น รองรับด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 7 ตัว เพื่อให้นำทางในเมืองและบนทางหลวงได้โดยอัตโนมัติโดยเป็นออปชันเสริม
HAVAL XIAOLONG MAX บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ เปิดขายแล้วที่จีนเริ่ม 131,800 – 169,800 YUAN หรือราว 599,000-775,000 บาท