Audi พยายามอย่างยิ่งเพื่อทำให้เอสยูวีไฟฟ้าคันใหม่ E-Tron มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแหวกว่ายผ่านอากาศ ซึ่งวิธีที่พวกเขาทำก็คือถอดกระจกมองข้างแบบเดิมออก แล้วแทนที่ด้วยกล้องขนาดเล็ก จากนั้นจึงแสดงผลไปยังจอที่ติดตั้งอยู่ระหว่างประตูกับแผงหน้าปัดด้วยมุมมองให้เลือกถึง 3 แบบ
Audi ได้ใช้เวลามากกว่า 1,000 ชั่วโมง ด้วยการนำเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Audi E-tron เข้าไปทดสอบในอุโมงค์ลม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดว่า เอสยูวีคันนี้จะต้องปราดเปรียวแหวกลมได้ดีเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผลที่ได้รับคือมันมีสัมประสิทธิ์แรงฉุดของอากาศอยู่ที่ 0.28 ช่วยเพิ่มระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ถึง 400 กม.
ดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญที่ช่วยให้รถไฟฟ้าใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกประการคือแอร์โรไดนามิค โดย Audi E-Tron สามารถแล่นผ่านอากาศด้วยความต้านทานต่ำสุด เนื่องจากมีการถอดกระจกมองข้างแบบดั้งเดิมที่ต้านทานแรงลมออก แล้วแทนที่ด้วยกล้องจับภาพกับหน้าจอภายในรถ ซึ่งทำหน้าที่แทนกระจกมองข้างแถมยังให้ความชัดเจนไม่แพ้กัน
โดยกระจกมองข้างแบบใหม่ที่มีกล้องขนาดเล็กติดตั้งอยู่จะแคบกว่ากระจกมองข้างแบบเก่า ทำให้ความกว้างของ E-Tron ลดลงถึง 15 ซม. ซึ่งมันจะแสดงภาพผ่านทางจอ OLED ที่ติดตั้งอยู่ระหว่างประตูกับแผงหน้าปัด อีกยังมีเลือกเปลี่ยนมุมมองได้ 3 แบบ คือ การขับบนมอเตอร์เวย์ การเลี้ยวรถ และการจอด
สำหรับวันเผยโฉมอย่างเป็นทางการของ Audi E-tron เอสยูวีไฟฟ้าคันใหม่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2018 พร้อมกันนี้มันจะได้ฤกษ์ออกขายที่ยุโรปภายในสิ้นปีนี้อีกต่างหาก
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com