Home » BYD มั่นใจ Denza Z9 GT ดีกว่ารถคู่แข่งแบรนด์พรีเมียม หลายเท่าตัว
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

BYD มั่นใจ Denza Z9 GT ดีกว่ารถคู่แข่งแบรนด์พรีเมียม หลายเท่าตัว

Denza คืออีกหนึ่งแบรนด์ย่อยของ BYD ที่ตอนนี้เริ่มถูกส่งออกไปลุยตลาดในหลายๆประเทศทั่วโลก และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า จึงทำให้ทางบริษัทมองว่า ผลิตภัณฑ์ของพวกเขานั้น “มีดีกว่าคู่แข่งหลายเท่า” แน่นอน

จากการให้สัมภาษณ์ของ Stella Li รองประธานบริษัทของ BYD และ Denza กับสื่อ Car Magazine ท่ามกลางงานเปิดตัวแบรนด์ในยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยมีรถยนต์อย่าง Denza Z9 GT เป็นตัวชูโรงว่า

“รถคันนี้ดีกว่าคู่แข่งหลายเท่าจริงๆ”, “เรามีลูกเล่นเฉพาะตัวมากมายที่คู่แข่งเจ้าดังรายอื่นๆไม่มี” ซึ่งคู่แข่งที่ว่านี้ คือเหล่าผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูสัญชาติยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz, BMW, Porsche, หรือ Audi ซึ่งล้วนเป็นเจ้าถิ่นตลาดที่ Denza กำลังจะบุกเข้าไป

“เรามั่นใจว่าผู้ซื้อจะพบกับความโดดเด่น, ภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ในรถซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อน, ความสง่ามงาม, สมรรถนะที่แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีอันน่าประหลาดใจ” Stella Li กล่าวเสริมถึงความโดดเด่นของ Denza Z9 GT ที่จะลุยตลาดยุโรปเป็นโมเดลแรกของแบรนด์ “ตัวรถรุ่นนี้คือตัวอย่างที่บ่งบอกว่า Denza มีจุดมุ่งหมายอย่างไร, และนี่คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ที่จะนำ Denza ให้เป็นที่รู้จักในยุโรป”

โดย Denza Z9 GT คือรถยนต์ทรงสเตชันวากอน ที่ถูกออกแบบโดย Wolfgang Egger อดีตดีไซน์เนอร์ของ Alfa Romeo และ Lamborghini ด้วยแรงบันดาลใจมาจากผ้าไหมที่กำลังโบกสะบัดลอยลม ทำให้ตัวรถมีเส้นสายที่ดูพลิ้วไหว ปราดเปรียว แม้จะมีขนาดตัวที่ยาวถึง 5,180-5,195 มิลลิเมตร, กว้าง 1,990 มิลลิเมตร, สูง 1,480 มิลลิเมตร และระยะฐานล้ออีก 3,150 มิลลิเมตร

มาพร้อมกับลูกเล่นที่น่าสนใจทั้ง ระบบช่วยเลี้ยว 4 ล้อ ที่ทำให้รถมีความคล่องตัวสูงในช่วงความเร็วต่ำ/มั่นคงในการขับด้วยความเร็วสูง/สามารถจอดเข้าที่แคบด้วยโหมด Crab walk, หน้าจออินโฟเทนเมนท์พร้อม ระบบเสียงพรีเมียม และหน้าจอแสดงข้อมูลตัวรถหน้าคนขับขนาดใหญ่ แถมยังมีหน้าจอด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารเพิ่มมาอีกชุด, ตรงกลางคอนโซลหน้ามีหัวเกียร์คริสตัล, เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับเอนได้แบบ Zero-Gravity, และลูกเล่นระบบความปลอดภัยขั้นสูง แม้แต่ระบบช่วยจอดในที่แคบอัตโนมัติก็ยังสามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

ด้านขุมกำลังของตัวรถ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่รุ่นขุมกำลัง PHEV ที่ใช้การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 206 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ลูก ให้กำลังรวมสูงสุด 870 แรงม้า ช่วยเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 3.6 วินาที โดยแบตเตอรี่ LFP ติดรถมีขนาด 38.5 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนสูงสุด 201 กิโลเมตร หรือหากใช้งานในรูปแบบระบบไฮบริด ก็จะทำให้รถวิ่งได้ไกลสุด 1,100 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ถัง+แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม 100%

ส่วนตัวรถรุ่นขุมกำลังไฟฟ้า จะใช้สถาปัตยกรรม e-Platform 3.0 Evo ซึ่งมีจุดเด่นคือการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบ่งคันขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 (ล้อคู่หน้า ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ลูกเดี่ยว ส่วนล้อคู่หลัง จะได้มอเตอร์ไฟฟ้าแยกกันทำงานคนละตัว) ให้กำลังรวมกันสูงสุด 965 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 3.4 วินาที และทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 100.1 kWh พร้อมเคลมระยะทางการใช้งานสูงสุด 630 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC

โดยแม้จะยังไม่มีการประกาศราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่หากมองจากราคาวางจำหน่ายในประเทศจีน ที่ถูกกว่าคู่แข่งสายตรงอย่าง Porsche Panamera ระดับห่างกันเกินครึ่งต่อครึ่ง แล้วเทียบกับออพชันต่างๆที่ให้มา จึงถือว่า Denza Z9 GT จะต้องเป็นรถที่มีความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นอย่างมาก และไม่แน่ว่าในเร็วๆนี้ มันก็อาจจะถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยของเราด้วย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.