ขณะที่เรายังต้องรอดดูท่าทีว่า Ford Ranger PHEV ที่ถูกเปิดตัวเมื่อปีก่อน จะมีโอกาสถูกนำมาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่ ? ล่าสุดทางค่ายกลับมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ ซึ่งอาจหมายถึง “Ford Ranger EV” หรือ Ranger ขุมกำลังไฟฟ้าล้วน ออกมาแล้ว
จากการประกาศข้อมูลในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ถึงแผนการรุกตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อขยายฐานลูกค้าของ Ford ส่วนหนึ่งของเนื้อหามีการประกาศถึงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่อยู่ 3 รุ่นด้วยกัน เริ่มจาก รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพานิชย์ หรือก็คือ รถตู้ไฟฟ้า ซึ่งจะถูกเปิดตัวในช่วงปี 2026 โดยอาจเป็นโมเดลใหม่หรือตัวแทนของ E-Transit
ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอีก 2 รุ่น คือรถกระบะพลังงานไฟฟ้า ซึ่งประกอบไปด้วย รถกระบะขนาด Full-Size Truck ซึ่งถูกระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะใช้ความรู้และข้อมูลจากการสำรวจตลาดของลูกค้าที่สนใจ รวมถึงใช้งาน Ford F-150 Lightning มาพัฒนาเจ้ากระบะรุ่นใหม่นี้ต่อไป ภายใต้ชื่อโครงการว่า “Project T3”
และรถยนต์ไฟฟ้าอีกโมเดลที่น่าสนใจที่สุด ก็คือ “รถกระบะขนาดกลาง หรือ ปิ๊กอัพ พลังงานไฟฟ้า” ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2027 โดยหากอิงจากสารบบรถกระบะ Ford ที่มีอยู่ในตอนนี้ รถกระบะขนาดกลางที่ทางค่ายทำตลาดอยู่ ก็มีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้น นั่นคือ “Ford Ranger”
และเป้าหมายสำคัญของ รถกระบะขนาดกลาง ขุมกำลังไฟฟ้า ซึ่งถูกเก็งโดยสื่อฯว่าจะเป็น Ford Ranger รุ่นใหม่ และอาจได้รหัสต่อท้ายว่า Lightning คันนี้ ทาง Ford ก็ระบุว่ามันจะมาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งถูกพัฒนาโดยเน้นไปที่การควบคุมต้นทุนการผลิตตั้งแต่แบตเตอรี่ไม่ให้สูงจนเกินไป แต่ได้ระยะทางที่สูงกว่าคู่แข่งในตลาด มีความอเนกประสงค์มากกว่า และสามารถใช้งานได้จริงมากกว่า
โดยตัวรถว่าที่ “Ranger ไฟฟ้า” รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าอีก 2 โมเดลที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ จะถูกพัฒนาภายใต้ฝีมือของทีม Skunkwork ที่ทาง Ford ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2022 โดยมีฐานสำนักงานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี Alan Clarke อดีตวิศวกรหัวหน้าโปรเจ็กท์การพัฒนา Tesla Model Y เป็นหัวหน้าทีมพัฒนาใหม่นี้ เพื่อนำทีมเหล่าวิศวกรและบุคลากรระดับหัวกะทิ เกือบ 100 ราย ระดดมสมองพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแพลตฟอร์มใหม่นี้โดยเฉพาะ ทั้งในส่วนของเทคโนโลยีด้านวิศวกรรม, ระบบควบคุม, ซอฟท์แวร์, งานออกแบบ, กระบวนการผลิต, และการประกอบ
“เรารวบรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านเทคนิคและความสร้างสรรค์ จากในและนอกบริษัท Ford เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่นี้” Jim Farley ผู้บริหารสูงสุดของ Ford กล่าว “การทำงานของเหล่าบุคลากรพรสวรรค์สูงเหล่านี้จะช่วยให้เราพัฒนาแผนการทำรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างตรงจุด, รถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จะมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า แต่ไม่ได้ลดหย่อนประสิทธิภาพใดๆทั้งสิ้น”
แน่นอน เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ เป็นข้อมูลที่บ่งบอกว่า เหล่ารถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ทั้ง 3 โมเดล ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา จึงทำให้พวกเขายังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคใดๆของตัวรถออกมา นอกจากการระบุว่ามันจะมาพร้อมกับขีดความสามารถที่ดีขึ้นกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน
และแม้จะเป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแพลตฟอร์มซึ่งเน้นการคุมต้นทุน แต่ก็จะถูกอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะระบบซอฟท์แวร์ จำพวกระบบช่วยคำนวนความเสื่อมสภาพเพื่อเข้ารับการดูแลรักษา และระบบประมวลผลสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ กับระบบความปลอดภัยขั้นสูง โดยทั้งหมดจะเป็นระบบที่สามารถอัพเดทให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา คล้ายๆกับที่เป็นอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้ายุคปัจจุบัน ซึ่งอาศัยการอัพเดทเฟิร์มแวร์ผ่านระบบ OTA
