แม้รถยนต์สมัยใหม่จะอัดใส่อุปกรณ์ความปลอดภัย อย่างเช่น กุญแจ Keyless Entry กับปุ่มสตาร์ท แต่ก็มีวายโจรร้ายสามารถขโมยรถไปง่ายดาย
ยุคที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงกันทุกหย่อมหญ้า หลายคนเริ่มหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการปล้นชิงทรัพย์สินของผู้อื่น โดยรถยนต์ถือเป็นสิ่งของมูลค่าสูงที่มักตกอยู่ในเป้าหมายของบรรดาหัวขโมย ซึ่งสถานการณ์รถหายที่อังกฤษถือว่าร้ายแรงขึ้นอย่างมาก และที่น่าตกใจคือรถที่หายใช้ระบบกุญแจ Keyless Entry กับปุ่มสตาร์ทตามสไตล์รถยนต์ยุคใหม่
ต้นกำเนิดของกุญแจอัจฉริยะกับปุ่มสตาร์ทที่บรรดาผู้ผลิตรถทุกค่ายจัดใส่ให้ลูกค้า มีขึ้นเพื่อความสะดวกสบายไม่ต้องให้ผู้ขับขี่ลำบากควักกุญแจออกมากดเปิดล็อค แล้วพอเข้ามานั่งในรถก็เพียงแค่เหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องเท่านั้น หลายคนที่พอได้ใช้งานก็ติดใจกันไปตามๆ กัน
อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายกลับแฝงไว้ด้วยจุดอ่อนอันน่าสะพรึง เพราะที่อังกฤษนั้นเหล่าโจรขโมยล้วนมีทักษะความรู้ขั้นสูง สามารถหาอุปกรณ์ดักจับสัญณาณที่ถูกปล่อยออกมาจากรีโมทเมื่อเจ้าของรถทำการล็อค ในระยะที่โจรอยู่ห่างไม่มากก็ปล้นรหัสสัญญาณในการปลดล็อคประตูรถ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น และรถบางคันที่ระบบความปลอดภัยไม่แน่หนาพอ แค่เพียงปลดล็อครถได้แล้วเข้าไปเหยียบเบรกกดปุ่มเดินเครื่อง เท่านั้นโจรตัวแสบก็เอารถไปได้สบาย
จากการรายงานของสื่ออังกฤษอย่าง Whatcar? ระบุว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมารถยอดสูญหายในอังกฤษและเวลล์พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะปีที่แล้วมีรถหายไปถึง 106,000 คัน แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของรถยุคใหม่ที่ผู้ผลิตการันตีว่าต่อต้านโจรตัวแสบได้นั้น นั่นอาจไม่ใช่ความจริงที่เราสามารถเชื่อถือได้อีกต่อไป
จากข้อมูลการทดสอบการป้องกันการโจรกรรมที่ทำโดยสื่ออังกฤษ โชว์ให้เห็นว่ารถหรูแบรนด์เยอรมัน อาทิ Audi, BMW, Mercedes-Benz รวมถึงรถอเมริกันอย่าง Ford สามารถปกป้องการขโมยได้สูงมาก เนื่องจากติดตั้งระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวสำหรับกุญแจ ซึ่งจะปิดระบบภายในรถทั้งหมดหากกุญแจเจ้าของรถไม่ถูกแตะต้องและไม่เคลื่อนไหว เมื่อผู้ถือครองกุญแจกดปุ่มล็อครถไว้
แต่รถที่น่าตกใจเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันการขโมยก็คือ Land Rover Discovery Sport ที่การทดลองสวมบทบาทเป็นโจรสามารถขโมยรถขับออกไปได้ในเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com