Subaru Crosstrek PHEV รถครอสโอเวอร์ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดคันแรกของซูบารุที่ขายในสหรัฐฯ ทำอัตราประหยัดน้ำมันไม่ได้ตามที่หลายคนคาดหวังกันไว้
เมื่อกล่าวถึงรถยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริด ทุกคนจะรู้ดีว่ายานพาหนะชนิดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสมรรถนะอัตราเร่งที่ดีกว่ารถเครื่องสันดาปปกติ โดย Subaru Crosstrek PHEV (XV) รถครอสโอเวอร์ปลั๊กอินไฮบริดของซูบารุคันแรกได้ลุยตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดมีสื่อได้ทดสอบจนพบว่า รถคันนี้ไม่ได้ประหยัดน้ำมันมากเมื่อใช้ในสภาพการหลากหลาย
พื้นฐานของ ซูบารุ ครอสเท็ก ปลั๊กอินไฮบริด ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 4 สูบ ที่สร้างกำลัง 148 แรงม้า พร้อมกับแบตเตอรีที่ช่วยให้วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลสุด 27 กม. ด้วยความเร็วไม่เกิน 104 กม./ชม. โดยทางซูบารุเคลมค่าความประหยัดไว้ 38.27 กม./ลิตร ทั้งนี้ การชาร์จไฟเข้าแบตฯ ทำได้ในเวลาเฉลี่ย 2 ชั่วโมง เมื่อใช้แรงดันไฟฟ้า 240 โวลต์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องแลกมาเมื่อใช้รถครอสโอเวอร์ปลั๊กอินไฮบริดจากค่ายดาวลูกไก่ ก็คือพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระที่น้อยกว่ารถรุ่นปกติถึง 25% เนื่องจากถูกแบตเตอรีเบียดกินพื้นที่ดังกล่าวสูงนูนขึ้นมา
ไม่เพียงเรื่องพื้นที่อันน้อยลงเท่านั้น หากแต่การบังคับควบคุมรถก็รู้สึกมั่นใจน้อยกว่า เพราะน้ำหนักแบตเตอรีที่กดลงบริเวณท้ายรถ ทำให้การเข้าโค้งตัวรถละโยนมากกว่ารุ่นปกติ ขณะเดียวกัน เมื่อไฟในแบตฯ หมด แล้วมอเตอร์ปั่นกระแสเข้าไปในระบบ สมรรถนะของรถจะด้อยลงชัดเจนเมื่อเทียบกับตอนมีไฟฟ้าเลี้ยงในแบตฯ
ทางด้านสื่อรถยนต์ของสหรัฐฯ นามว่า Roadshow ได้เปิดเผยข้อมูลการทดสอบซูบารุ ครอสเท็ค ปลั๊กอินไฮบริด ว่าการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ได้เสียบปลั๊กชาร์จไฟ รถกินน้ำมันเฉลี่ย 12.5 กม./ลิตร ด้วยการขับเดินทางไกล สลับกับการวิ่งในเมืองบางจุด อย่างไรก็ตาม รถอาจประหยัดหรือกินน้ำมันเพิ่มขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางวิ่ง ความเร็วที่ใช้ รวมถึงไฟในแบตฯ ว่าเหลือมากน้อยแค่ไหน
หากนำ ซูบารุ ครอสเท็ก ปลั๊กอินไฮบริด ที่มีราคาเริ่มต้น 35,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 1,085,000 บาท) ไปเทียบกับครอสเท็ก เครื่องสันดาป รุ่นเริ่มต้นอันมีราคา 21,895 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 678,745 บาท) ซึ่งรายนั้นมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14 กม./ลิตร มันก็ค่อนข้างเห็นอะไรให้ได้เปรียบเทียบ
เรามองว่ารถปลั๊กอินไฮบริด อาจเหมาะกับคนที่ใช้รถระยะทางต่อวันไม่เกิน 30 กม. (ในกรณีของครอสเท็ก ปลั๊กอินไฮบริด) แล้วต้องชาร์จไฟให้เต็มแบตฯ อยู่เสมอ เพราะถ้าใครขับรถต่อวันมากเกินที่ระบุไว้ คุณก็จะไม่ได้ใช้ประโยชน์ของรถ PHEV ได้เต็มที่นัก
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com