อาจจะจริงอยู่ว่าการมาของตัวรถ Model 3 และ Model X โดย Tesla บริษัทแม่ ในบ้านเรา ทำให้ใครหลายคนในไทยต่างสมหวังไปตามๆกัน แต่นั่น อาจไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ซึ่งกำลังรอคอยการมาของ 2 รุ่นใหญ่ อย่าง Model S และ Model X
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่ถูกกล่าวถึงกันอย่างหนาหูบนช่องทางสื่อออนไลน์ทั่วโลก ว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทาง Tesla ได้มีการส่งอีเมล “ยกเลิกการจับจอง” ตัวรถ Tesla Model S และ Tesla Model X กับ ให้เหล่าลูกค้าในประเทศที่ต้องใช้รถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และญี่ปุ่น
โดยจากข้อมูลในเบื้องต้น เหล่าลูกค้าที่ได้รับอีเมลดังกล่าว ต่างระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า ทาง Tesla ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกการรับจองแต่อย่างใด และแต่ละคนยังได้รับข้อความเดียวกันอีกว่า ทางค่ายจะยังไม่มีการเปิดรับจองตัวรถทั้งสองรุ่น ที่เป็นร่างพวงมาลัยขวาใหม่อีกครั้ง ในเร็วๆนี้แน่นอน
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการปลอบขวัญลูกค้าที่ผิดหวังในการจับจองตัวรถทั้ง 2 รุ่น (แม้บางคนอาจจะรอมานานแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ก็ตาม) ทาง Tesla ก็ได้ยื่นข้อเสนอให้กับลูกค้าเหล่านั้น 3 ทางเลือกด้วยกัน เริ่มจากข้อเสนอง่ายสุด นั่นคือ การให้ถอนจอง โดยลูกค้าที่ตัดสินเลือกทางเลือกนี้ ก็จะได้รับเงินมัดจำ หรือเงินจองเต็มจำนวน
ส่วนข้อเสนอที่สองคือ ให้ลูกค้าเปลี่ยนไปจับจองตัวรถ Tesla Model 3 และ Tesla Model Y ร่างพวงมาลัยขวา ซึ่งเป็นตัวรองของทั้ง 2 รุ่นที่ลูกค้าจองไปก่อนหน้าแทน พร้อมรับส่วนลดอีกราวๆ 6-7 หมื่นบาท แล้วแต่ประเทศ
และข้อเสนอสุดท้าย (สำหรับลูกค้าในบางประเทศเท่านั้น) คือ หากลูกค้ายังคงยืนยันที่จะจับจอง และรอตัวรถ Tesla Model S กับ Tesla Model X ต่อไป ทางค่ายก็จะเปลี่ยนรายละเอียดการจองตัวรถ เป็นรุ่นพวงมาลัยซ้ายแทน ซึ่งมองในแง่ดี คืออย่างน้อยก็ได้ใช้รถ แต่มองในแง่ร้ายคือ มันอาจสร้างความลำบากในการใช้มากกว่าแทน (แต่คงไม่มากเท่าไหร่นัก หากลูกค้าอยากหล่อบนรถทั้ง 2 รุ่นจริงๆ)
ส่วนการจับจองตัวรถ Tesla Model S และ Tesla Model X ในไทย แม้จะยังไม่มีการเปิดรับจองมาตั้งแต่แรก นั่งตั้งแต่ที่ Tesla ประกาศลงทำตลาดอย่างเต็มตัวในบ้านเราตั้งแต่ปลายปีก่อน ทว่าจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ย่อมส่งผลให้ความหวังที่ใครหลายๆคนจะได้ขับตัวรถทั้งสองรุ่น เวอร์ชันพวงมาลัยขวา ยิ่งริบหรี่ลงไปมากกว่าเดิมแน่นอน
เว้นเสียแต่ว่าจะไปซื้อกับผู้นำเข้าอิสระ ที่อาจจะยังมีรถค้างสต็อคอยู่แทน…