การประกาศความร่วมมือกันครั้งล่าสุดระหว่าง Toyota กับ Subaru เมื่อปลายเดือนกันยายน เผยรายละเอียดในการพัฒนาระบบขับเคลื่อน AWD ที่ตอบสนองที่สุด
เมื่อเอ่ยถึง Toyota ทุกคนทราบดีว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญในการทำรถยนต์อันมากไปด้วยข้อดีมัดใจลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องเครื่องยนต์ ความประหยัด และความทนทาน ด้าน Subaru บริษัทที่ถนัดการทำรถขุมพลัง Boxer สูบนอนกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD และขึ้นชื่อเรื่องการเซ็ตอัพรถให้ออกมาขับขี่สนุกถึงใจ
ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาทั้งโตโยต้ากับซูบารุ ได้ประกาศความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่มอบประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะ นั่นส่งผลตรงต่อไปยัง All NEW Toyota 86 กับ All NEW Subaru BRZ รวมถึง WRX STI เจนเนเรชั่นถัดไป การันตีว่าลูกค้าจะได้ลิ้มลองประสบการณ์อันสุดยอด จากระบบขับเคลื่อนที่มีคนตั้งชื่อให้ว่า Ultra AWD
ถามว่าประโยชน์ที่โตโยต้ากับซูบารุร่วมมือกันพัฒนามีอะไรนอกจากประหยัดต้นทุกบ้าง? คำตอบมีหลายข้อ หากเป็นฝั่งโตโยต้าแน่นอนว่าพวกเขาสามารถหากำไรเพิ่มเติมจากกลุ่มรถสปอร์ต ที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อผลิตรถรุ่นใดรุ่นหนึ่งเพียงผู้เดียว ในขณะเดียวกัน ซูบารุก็ได้ผลดีจากการปรับคาแรกเตอร์ของแบรนด์ จากเดิมที่ทุกคนเข้าใจว่านี่คือยี่ห้อรถสปอร์ตโดยแท้ แต่ทันทีที่ร่วมมือกับโตโยต้าค่ายดาวลูกไก่ก็ได้โทนดาวน์ตัวเองลง เพื่อทำให้ลูกค้าหน้าใหม่ๆ หันมาสนใจแบรนด์ซูบี้มากขึ้น
ที่แน่ๆ โตโยต้ารับบทบาทวางแผนการผลิต รวมถึงหาข้อได้เปรียบในประเด็นเกี่ยวกับคู่ค้ารวมถึงแหล่งเงินทุน ส่วนซูบารุรับหน้าที่พัฒนาขุมพลังเบนซินสูบนอน Boxer กับแพล็ตฟอร์มที่จะมาตอบสนองการขับขี่ให้ลูกค้าพึงพอใจ โดยทั้งสองบริษัทเตรียมส่งรถสปอร์ตคูเป้สองประตู ในนาม 86 และ BRZ เจนเนเรชั่นที่ 2 ออกมาในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com