ปี 2018 เป็นปีทองของ Volvo ที่ได้ทำลายสถิติยอดขายรถทั่วโลกได้เกิน 6 แสนคัน คิดเป็นการเติบโตขึ้น 12.4% อันเนื่องมาจากการเปิดตัวรถใหม่ที่โดนใจลูกค้า
ยอดขายรถแบรนด์หรูทั่วโลกเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาของทุกยี่ห้อพุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Volvo รถยนต์สัญชาติสวีเดนที่มียอดขายสูงสุดทั่วโลกรวมกันเกิน 6 แสนคัน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี ค.ศ. 1927
Volvo มียอดขายรถยนต์ตลอดปี 2018 จำนวน 642,523 คัน เติบโตขึ้น 12.4% เมื่อเทียบกับปี 2017 ที่ขายได้จำนวน 571,577 คัน เรียกว่าขายรถได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 5 สำหรับสาเหตุที่ทำให้วอลโว่ขายได้สูงขึ้นขนาดนี้ มาจากการขายรถเอสยูวีกลุ่ม XC ที่โดนใจลูกค้ายุคใหม่ทั้งหลาย
เพียงเดือนธันวาคมปี 2018 รถเอสยูวีตระกูล XC สามารถทำยอดขายที่สหรัฐฯ ยุโรป และจีน ได้จำนวนสูงถึง 60,157 คัน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Volvo XC60 คือรถขายดีที่สุดในเครือวอลโว่ โดยปี 2018 ผู้ผลิตส่งถึงมือลูกค้าได้ 189,459 คัน ตามด้วยพี่ใหญ่ XC90 จำนวน 94,182 คัน และอันดับสามเป็นของ V40/V40 Cross Country จำนวน 77,587 คัน
หากดูยอดขายแยกย่อยตามแต่ละทวีป ปีที่แล้วตลาดสหรัฐอเมริกาทำได้ 98,263 คัน เพิ่มขึ้น 20.6% ซึ่งรถที่ช่วยให้ยอดโตในดินแดนเมืองลุงแซมมาจากเจ้าเอสยูวี XC60 ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นอีกจาก S60 ซีดานรุ่นล่าสุดที่เตรียมลงสู่โชว์รูมช่วงต้นปี 2019 นี้
ประเทศจีนมียอดขายรถจำนวนมาก แต่หากคิดเป็นเปอร์เซ็นกลับเพิ่มขึ้น 14.1% มีจำนวนรถที่ขายได้ทั้งสิ้น 130,593 คัน โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจาก XC60 กับ S90 เวอร์ชั่นประกอบในประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนทวีปยุโรปขายได้ถึง 317,838 คัน โตขึ้น 6.4% ยอดขายหลักๆ นำทีมด้วย V60 รถแวกอน และรถเอสยูวีรุ่นเล็กสุด XC40
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com