นอกจากการทำรถกระบะให้มีความแข็งแกร่ง ถึกทน ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ปัจจุบันผู้ผลิตยังนิยมทำกระบะตัวลุย เน้นรองรับกิจวัตรช่วงวันหยุดของผู้ใช้กระเป๋าหนักออกมาเพิ่มเติมด้วย และล่าสุดก็ดูเหมือนว่าทาง Isuzu จะอยากร่วมวงเช่นกัน
หลังปล่อยให้คู่แข่งตีกันพักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Ford Ranger Raptor, Toyota HiLux GR Sport (Hilux Revo GR Sport Wide Tread) และในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะออสเตรเลียยังมี Mazda BT-50 Thunder เข้าร่วม แถมฝั่ง Mitsubishi ก็ยังมีข่าวลือว่าพวกเขากำลังซุ่มเก็บข้อมูลการทำ Triton ร่างพิเศษที่เหนือกว่า Athlete ออกมาอีก
ล่าสุด จากข้อมูลโดยสื่อในประเทศออสเตรเลียอย่าง Drive.com.au ระบุว่าทาง Isuzu Ute Australia ได้มีการลงนามทำความร่วมมือกับ Walkinshaw Automotive Group แล้วเป็นที่เรียบร้อย เพื่อร่วมกันพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในอนาคต”
โดยที่บริษัทด้านวิศวกรรมแห่งนี้ เคยเป็นเบื้องหลังให้กับแผนก Holden Special Vehicles และมีผลงานเป็นรถกระบะตัวแกร่งร่างพิเศษในออสเตรเลียมาแล้วหลายรุ่น อย่าง HSV Colorado SportsCat เมื่อปี 2018, Volkswagen Amarok W580 ในปี 2020 รวมถึง Mitsubishi Triton Xtreme ร่างสุดท้ายก่อนปรับโฉมใหญ่ในปีที่ผ่านมาอีกด้วย
และหากอิงตามข้อมูลของหน่วยงานรัฐออสเตรเลีย ก็ยังมีการเผยให้เห็นอีกว่า ในความเป็นจริงทาง Isuzu ได้มีการยื่นจดชื่อการค้าของว่าที่ กระบะเรือธงของตระกูล D-Max เอาไว้แล้ว โดยจะใช้ชื่อต่อท้ายว่า “Blade” และจะมาพร้อมกับการติดตั้งชุดของแต่งเสริมมากมาย ทั้งชุดล้ออัลลอยด์ลายพิเศษเฉพาะรุ่น, ยางพร้อมลุย บวกกับ สปริงโช้กใหม่ ซึ่งทำให้ตัวรถสูงสุดขึ้นจากเดิมอีก 26.5 มิลลิเมตร และ 29 มิลลิเมตร ตามลำดับหน้า-หลัง
และยังมีการตกแต่งอีกหลายรายการ เช่นขอบซุ้มล้อใหม่ เพื่อรับกับชุดล้อและยางที่ใหญ่ขึ้น, เพิ่มสปอร์ตบาร์ด้านหลัง, ปรับตำแหน่งไฟเบรกดวงที่ 3 และติดตั้งชุดแผ่นกันกระแทกใต้อ่างน้ำมันเครื่อองเพิ่มเติม
ส่วนการปรับแต่งเครื่องยนต์ กลับไม่ได้มีการระบุข้อมูลเอาไว้ในเอกสาร จึงทำให้มันอาจจะยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เท่าเดิม และมีระบบ X-Terrain (Rough Terrain Mode) มาให้เช่นเดิม ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ
ทั้งนี้ เนื่องจากตัวรถ Isuzu D-Max Blade จะเป็นรถกระบะที่ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง Isuzu Ute Australia กับทาง Walkinshaw Automotive Group
ดังนั้นตัวรถจึงจะถูกสร้างขึ้นโดยการเอากระบะ Isuzu D-Max ตัวธรรมดาจากประเทศไทย โดยเป็นร่างตัวถัง 4 ประตู แบบ Hi-lander แต่ให้ระบบขับเคลื่อน 4×4 ไปตั้งแต่ออกโรงงาน โดยไม่มีการติดตั้งชิ้นส่วนเสริมหล่อแบบ V-Cross แล้วนำไปประกอบกับชิ้นส่วนตกแต่งต่างๆในประเทศออสเตรเลียเองอีกที
และนั่นก็หมายความว่าเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นมันถูกนำมาวางจำหน่ายในไทยแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าทาง Isuzu ประเทศไทย จะเห็นดีเห็นงาม อยากเอาคอนเซปท์นี้มาใช้ในไทยด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ถึงเป็นไปไม่ได้เลยอยู่ดี เพราะทางผู้บริหารระดับสูง มองว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นกับ D-Max ที่ขายในบ้านเรา
โดยแม้ทาง Isuzu ออสเตรเลีย จะยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดวันขายจริง แต่หากนับตามอายุการจดข้อมูล ก็ย่อมหมายความว่าพวกเขาจะต้องพร้อมวางขายมันภายในอีกไม่เกิน 12 เดือนนับจากนี้ ซึ่งหน้าตาของมันจะเป็นอย่างไร จะน่าอิจฉาชาวออสซี่มากแค่ไหน ก็รอติดตามกันต่อไป