ผ่านเวลาไปกว่า 11 ปี ในที่สุดซุปเปอร์คาร์ระดับเรือธงของค่ายกระทิงดุรุ่นล่าสุด Lamborghini Aventador ก็ถึงเวลาที่จะต้องถูกยุติสายการผลิตสักที และหวังว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายของมันจริงๆ

เพราะหากย้อนไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลายคนคงจะพอจำกันได้ว่า มันได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้กับเรือที่ใช้ทำการขนส่งรถยนต์หลากหลายรุ่นของ Volkswagen ทั้งที่อยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์เอง และที่อยู่ภายใต้บริษัทในเครือ ซึ่งนั่นรวมถึง Lamborghini

จากอุบัติเหตุครั้งดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับทาง Volkswagwn เป็นอย่างมาก เพราะทางแบรนด์ (รวมถึงบริษัทอื่นที่มีการฝากส่งรถไปบนเรือลำเดียวกัน) ไม่สามารถกู้รถทั้งใหม่ทั้งเก่าที่อยู่บนเรือได้เลย และจำเป็นต้องปล่อยมันจมลงไปสู้ท้องทะเลทั้งอย่างนั้น

แน่นอน หนึ่งในนั้นของเหล่ารถที่จมลงสู่ท้องทะเลไป ก็มี Lamborghini Aventador ในเวอร์ชัน Ultimae ที่ทางค่ายตั้งใจเอาไว้ว่ามันคือตัวรถคันปิดสายการผลิตของตระกูล Aventador ที่กำลังจะถูกส่งไปหาเจ้าของซึ่งกำลังรอการมาของมันอย่างใจจดใจจ่ออีกด้วย

นั่นจึงทำให้ทาง Volkswagen ต้องตัดสินใจ ให้ตนเอง และเหล่าบริษัทในเครือกลับมาเปิดไลน์ผลิตรถที่จมลงไปสู่ก้นทะเลอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ Lamborghini ที่ต้องกลับมาผลิต Aventador Ultimae อีกคราว แม้ว่าพวกเขาจะประกาศยุติสายพานการผลิตมันไปแล้วก็ตาม

และในที่สุด Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae Roadster ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 780 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร และตัวถังสีพิเศษ Special Light Blue จาก Ad Personam ซึ่งถือเป็น Aventador คันสุดท้าย(จริงๆ) ก็ได้ออกจากสายพานการผลิตเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ทางค่ายจะต้องส่งมันข้ามโพ้นทะเลไปหาเจ้าของในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

โดยในตลอดระยะเวลากว่า 11 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ Lamborghini Aventador ได้ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน Geneva Motor Show 2011 มันก็ได้กระแสตอบรับจากลูกค้าทั่วโลกไปเป็นอย่างดี และสามารถทำยอดขายแซงรุ่นพี่ อย่าง Murcielago ด้วยตัวเลข 5,000 คัน ในเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น

และในวันปิดสายพานการผลิต ด้วยตัวเลขยอดขาย 11,465 คัน กับรุ่นย่อยอีกมากมาย ไม่นับการถูกนำไปแปลงโฉมเป็นรถเวอร์ชันพิเศษอีกหลายรุ่น ทั้ง Venano, Sian FKP37, หรือ New Countach LPI 800-4 จึงทำให้มันกลายเป็นรถซุปเปอร์คาร์เครื่องยนต์ V12 ที่ทำตัวเลขดังกล่าว ได้มากกว่าเอาตัวเลขยอดขายของรุ่นพี่ทั้ง Miura, Diablo, Countach และ Murciélago มารวมกันเสียอีก

นอกจากความพิเศษในเรื่องยอดขาย ไปจนถึงเรื่องราวหนังชีวิตในช่วงวาระสุดท้ายของ Aventador ในความเป็นจริงแล้ว มันยังจะเป็นรถ Lamborghini ขุมกำลัง V12 ไร้ระบบไฟฟ้าช่วยเสริมกำลังคันสุดท้ายอีกด้วย เพราะหลังจากนี้ ตัวตายตัวแทนของมัน จะมาพร้อมกับขุมกำลัง V12 ลูกใหม่ ที่ได้มอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยเสริมกำลังกันในลักษณะ Plug-In Hybrid แล้ว แต่มันจะมีรายละเอียดในเชิงลึกอย่างไร ต้องรอติดตามกันต่อไปในช่วงไม่เกินสิ้นปีนี้