แม้รถยนต์ไฟฟ้าในตลาด Mass Production จะเกิดการแข่งขันหนักหน่วงมานาน แต่ในฝั่งผู้ผลิตรถซุปเปอร์คาร์สุดหรูเองกลับดูไม่รีบร้อนเท่าไหร่นัก และ Lamborghini ก็คือหนึ่งในนั้น
ย้อนไปเมื่อกลางปี 2023 ทาง Lamborghini ได้มีการเปิดภาพของ Lamborghini Lanzador ซึ่งเป็นว่าที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน 100% คันแรกของแบรนด์กระทิงดุออกมา เพื่อให้ลูกค้าได้ทยอยจับจองแบบคร่าวๆกันก่อนที่จะมีการวางขายจริงอีกครั้งในปี 2028
แต่ในรายงานล่าสุด ผู้บริหารสูงสุดอย่าง นาย Stephan Winkelmann ก็ได้ออกมาระบุว่าทางแบรนด์ได้พิจารณาที่จะเลื่อนกำหนดการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนคันแรกของแบรนด์ออกไปเป็น “ไม่เกินสิ้นทศวรรษนี้” หรือให้เจาะจงอีกนิดคือในช่วงปี 2029 แทน
โดยแม้คู่แข่งอย่าง Ferrari ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาตั้งใจจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนคันแรกของแบรนด์ในปี 2025 แต่จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Reuters นาย Winkelmann กลับดูเหมือนจะไม่ได้กังวลใจใดๆ พร้อมระบุว่า “เรามีเวลาเหลือเฟือที่จะตัดสินใจว่า เราจะเร่งหรือชลอการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของเรา”
“อันที่จริง เราก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นการชลออะไรด้วยซ้ำ เพราะเราเคยบอกไปแต่แรกแล้วว่าเราจะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าของเราภายในช่วงไม่เกินสิ้นทศวรรษนี้ และมันก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องคอยประคับประคองกันไปก่อน, เพราะเรามองว่ามันควรจะเป็นรถเสริม เป็นรถโมเดลที่สี่” (ไม่ได้เป็นโมเดลตัวขายหลัก เหมือน Urus, Temerario, หรือ Revuelto)
“เราไม่ได้คิดว่าในปี 2029 จะเป็นปีที่ช้าเกินไปสำหรับการพึ่งมีรถยนต์ไฟฟ้าลุยตลาด, เราไม่ได้คิดแบบนั้น, (เพราะ)สำหรับพื้นที่(การตลาด)ของเรา, กว่าตลาดจะพร้อมก็คือประมาณปี 2025 หรือ 2026 นี้เอง”
ทั้งนี้ แม้ความเคลื่อนไหวในข้างต้น อาจจะดูขัดใจเหล่าสาวกชมรมคนนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้าไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเมื่อมองจากสถานการณ์ต่างๆในภาพรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามันค่อนข้างมีความผันผวนมากพอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสความต้องการของลูกค้าที่เติบโตช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโดยปกติลูกค้ากลุ่มที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากๆในปัจจุบัน ก็ไม่ใช่ลูกค้าเป้าหมาย หรือลูกค้าที่สนใจในรถยนต์ของ Lamborghini อยู่แล้ว จึงทำให้ทางค่ายยิ่งไม่ต้องสนใจในตลาดดังกล่าวขนาดนั้นมากขึ้นไปอีก
และแม้กว่าที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จะเริ่มหันมาสนใจใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจริงๆ คือภายในปี 2025-2026 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาก่อนที่ทางค่ายจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์มาสอดรับกับตลาดถึงราวๆ 3-4 ปี แต่ก็ไม่แน่ว่าในระหว่างนั้น สถานการณ์อาจพลิกผันอีกก็เป็นได้เมื่อมองจากตลาดในปัจจุบัน
เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความต้องการในตลาดเท่านั้น แต่ในฝั่งภาครัฐเอง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ก็เริ่มเสียงแตกในส่วนของนโยบายแบนรถขุมกำลังสันดาปภายใน ในปี 2035 มากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งก็มองว่ามันอาจส่งผลเสียต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มากเกินไป
และในขณะเดียวกันหากมองไปที่มุมการรักษ์โลก ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของข้อบังคับนี้ หากเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ สามารถทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ขายในปริมาณมากๆเชิงพาณิชย์ได้จริง รถสันดาปเอง ก็จะมีการปล่อยมลพิษต่ำหรือเป็นศูนยืได้เช่นกัน
นั่นจึงทำให้ Lamborghini มองว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรในการเร่งทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมา เพราะลูกค้าเป้าหมายของตนเอง รอได้ หรือหากทิศทางการตลาดในภาพรวมเปลี่ยนไป (อย่างที่ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณบางอย่างให้เห็นแล้ว) พวกเขาก็อาจจะไม่ต้องทำผลิตภัณฑ์ที่ยากต่อการพัฒนาให้ถูกจริตลูกค้าของตนเองจริงๆออกมาก็เป็นได้
“เราคิดว่านี่คือทางเดินที่ถูกต้องเพื่อเผชิญกับอนาคตในภายภาคหน้า” Winkelmann กล่าว “คือมันมีการถกประเด็นกันถึงเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ และมันก็มีความเป็นไปได้ที่จะเหมาะกับรถของเรา(มากกว่าการทำให้มันเป็นรถขุมกำลังไฟฟ้า)”