หลังการหลุดภาพสิทธิบัตรไปเมื่อเดือนก่อน ดูเหมือนมันจะยังเป็นการหลุดที่หนำใจไม่พอ จึงทำให้คราวนี้ ภาพของว่าที่ทายาทรุ่นใหม่ของ Lamborghini Aventador จะหลุดออกมาอีกครั้ง แถมยังเป็นภาพรถคันจริงอีกด้วย

โดยสำหรับภาพของตัวรถคันจริง รุ่นเตรียมสานต่อตำนานจาก Lamborghini Aventador ที่หลุดออกมา ก็จะมีทั้งหมดสองภาพด้วยกัน นั่นคือภาพด้านหน้าและภาพด้านหลังของตัวรถ ซึ่งมันก็จะทำให้เราได้เห็นถึงรายละเอียดต่างๆของตัวรถที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับภาพสิทธิบัตรก่อนหน้า ที่เป็นเพียงลายเส้นแบบร่างคร่าวๆเท่านั้น

และหากให้ไล่เรียงถึงรายละเอียดหน้าตาของตัวรถในข้างต้น เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ ที่มันจะเข้ามารับช่วงต่อ เราก็จะพบว่า แม้ตัวรถจะยังคงมาพร้อมกับรูปทรงลิ่ม หน้าทิ่ม ท้ายโด่งอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิม แต่งานออกแบบหน้าตาภายนอกรอบคันก็ได้ถูกปรับใหม่ทั้งหมด ให้มันดูมีทั้งความดุดัน แหลมคม และมีเส้นสายสลับซับซ้อน มากยิ่งขึ้น แม้แต่ช่องดักลมต่างๆยังดูใหญ่โตและหวือหวาขึ้นกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริเวณหน้าซุ้มล้อหลัง

และเมื่อมองทางด้านหลัง เราก็จะพบบกับฝาปิดห้องเครื่อง ที่ถูกเปลี่ยนใหม่ ให้เป็นแบบบานกระจกตรงกลาง และขนาบข้างด้วยแถบรีดอากาศอย่างน้อย 3 ชั้น ซึ่งทำให้ตัวรถดูดุดันขึ้นมาก เช่นเดียวกับสัดส่วนบั้นท้ายตัวรถ ที่ดูบึกบึนมากขึ้น

อีกจุดที่น่าสนใจ คือการวางตำแหน่งปลายท่อไอเสียคู่กรอบหกเหลี่ยม ให้มาอยู่ในระนาบเดียวกับไฟท้ายรูปตัว Y นอนขนานไปกับแนวพื้นโลก โดยที่กันชนท้าย ก็แน่นอนว่าจะมาพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะได้แรงบันดาลใจมากจากเอกโซติกคาร์รุ่นพิเศษอย่าง Lamborghini Essenza SCV12

แม้อาจจะน่าเสียดายเล็กน้อย ตรงที่สุดท้ายข้อมูลครั้งนี้ ก็ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดขุมกำลัง ที่หลายฝ่ายระบุตรงกันว่า จะเป็นเครื่องยนต์ V12 ลูกเดิม ที่อยู่ใน Lamborghini Aventador Untimae LP770-4 ก่อนปิดสายการผลิต แต่มีการเสริมแรงด้วยระบบไฮบริดเข้าไปตามยุคสมัย

ทว่าอย่างน้อยสิ่งที่เราได้รับรู้เพิ่มเติม ก็คือการที่ชื่อไฟล์ของทั้งภาพที่หลุดออกมา และไฟล์สิทธิบัตรที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ มีชื่อว่า “Revuelto” ซึ่งหากแปลจากภาษาอิตาลี ตามชาติกำเนิดของแบรนด์ ให้เป็นภาษาไทย มันก็จะแปลว่า “อันธพาล, เกเร, ดื้อด้าน” หรือส่อความหมายไปในทาง “ก้าวร้าว ไม่ฟังใคร” นั่นเอง

(แต่ถ้าคำนี้แปลจากภาษาสเปน มันจะแปลว่า เมนูอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเหมือน “ไข่กวน” แทน)