สัจธรรมของทุกสิ่งในโลก อาจจะถูกมองว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป หากบางครั้งภาพที่เห็น ก็ไม่เป็นเช่นนั้น บางครั้งสิ่งที่เราคุ้นเคย ถูกนิวัติไปสู่แนวทางใหม่ เพื่อขายคนกลุ่มใหม่ ดั่งที่เกิดขึ้นกับ เกียร์ธรรมดา
“สามแป้นเหยียบ” พร้อมความสนุกสนานในการขับขี่ การตอบสนองที่เป็นไปดั่งใจสั่ง คือสิ่งที่ เกียร์ธรรมดา มอบให้ผู้หลงรักในการขับได้ดีเสมอมา ตั้งแต่ยุคพระเจ้าเหายังทรงเยาว์ มาจนถึงยุคยานยนต์สมัยใหม่
การมาของ เกียร์อัตโนมัติ ในยุคก่อนถูกมองว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนรักสบาย ใช้งานง่าย แต่แลกมากับค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า แถมยังกินน้ำมัน
ทว่าวันนี้เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อสถานการณ์หลายอย่างรุมเร้าผู้ผลิตรถยนต์ ให้เกียร์ออโต้กลายเป็นมาตรฐาน ของรถยุคใหม่ ไม่ว่าจะการเข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้น ,การควบคุมการปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์ดีกว่า รวมถึง การสร้างอัตราประหยัด และอื่นๆอีกมากมาย
ทำให้ ในวันนี้รถเกียร์ธรรมดา โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดรถเก๋ง เริ่มจางหายไป จนใกล้สูญพันธุ์
ครั้งสุดท้าย ที่ผมทราบว่าเกียร์ธรรมดา ยังมีทางเลือกให้ลูกค้า ก็น่าจะราวๆ 5-6 ปีก่อนในช่วง Nissan March ส่งท้ายตลาด แล้วอยู่ๆ เกิดอันใดไม่ทราบ รถมาร์ชเกียร์ธรรมดา ดันขายดีทิ้งทวน แบบงงๆ
เดิมที เกียร์ธรรมดา มักมีให้เลือกในรถยนต์อีโค่คาร์ จนกระทั่งเข้าสู่การแนะนำอีโค่คาร์เฟส 2 รถเล็กเกียร์ธรรมดา ถูกตัดตอนออกไปจากสารบบโดยสิ้นเชิง จนทุกผู้ผลิต โดยทุกรายอ้างไปในทางเดียวกัน ว่า เพื่อทำการปล่อยมลพิษเป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐทำให้คนไทยหมดโอกาสซื้อรถเล็กเกียร์ธรรมดา และอย่างใน ซิตี้คาร์รุ่นสุดท้ายที่ขายก็คือ Honda Jazz GK ก่อนการมาของ Honda City Turbo
ในกลุ่ม Compact Car ชาวแก๊ง อย่าง Civic Altis, ก็ดูจะหายไปในราวๆปี 2015 ยกตัวอย่าง Honda ซีวิค รุ่น FB น่าจะเรียกว่าเป็นรุ่นสุดท้ายเกียร์ธรรมดาของตระกูล จนข้ามมาเจน FC ถูกโละทิ้งตามความคาดหมาย
การสูญหายไปของเกียร์ธรรมดา นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับกันอย่างเปิดอกว่า คนซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่ในสมัยนี้ ไม่นิยมเกียร์ธรรมดา โดยเฉพาะในกลุ่มรถเก๋ง เนื่องจากมองหาความสบายในการใช้งานเป็นหลัก แถมการจราจรในเขตเมืองยังค่อนข้างคับคั่งหนาแน่น การมาเหยียบคลัทช์บ่อยๆ จนตะคริวกินขาซ้ายไม่ใช่เรื่องโสภาในการใช้งานในประจำวัน
ส่วนรถกระบะวันนี้ยังมีเกียร์ธรรมดาเป็นทางเลือก เนื่องจากลูกค้าจำนวนหนึ่ง ยังต้องการใช้การตอบสนองกำลังเครื่องยนต์อย่างทันอกทันใจ เช่นจังหวะขึ้นเขา หรือ แบกขนสิ่งของ หรือกระทั่งการลากจูง
ยิ่งความเชื่อว่าเกียร์ธรรมดา ตอบสนองดีกว่า จากความรู้สึกเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างผู้ขับขี่และเครื่องยนต์ สามารถเค้นรีดเครื่องยนต์ได้เป็นไปตามต้องการมากกว่า แถมยังประหยัดน้ำมัน ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้คนจำนวนหนึ่งยังมุ่งสู่เกียร์ธรรมดา ไม่ขาดสาย
ไม่เพียงเท่านี้ เป็นที่รู้กันว่าเกียร์ธรรดมาทนตายยาก ไม่ค่อยจะพังกันง่ายๆ เพียงเปลี่ยนคลัทช์โอเวอร์ฮอลล์หน่อย ก็พร้อมวิ่งปร๋อเดินทางต่อ นี่ยังคือจุดเด่นของมัน
แต่โลกยุคนี้มันเปลี่ยนไป ปัญหาสำคัญของเกียร์ธรรมดา คือ การเรียนรู้กับมันยากมาก กว่าจะขับได้คล่อง
อย่างผมเอง ยังจำวันแรกที่ที่คุณแม่ให้ลองขับรถเกียร์ธรรมดา พยักเพยิด กว่าจะออกตัวให้มันนิ่งๆได้ แทบหยุดหายใจ กว่าจะลองขับรถออกถนนได้ มันต้องสั่งสมประสบการณ์ในการออกตัวดับไม่รู้กี่สิบรอบ
ยิ่งขับแรกๆ ติดบนสะพาน ออกตัวดับ นี่ยิ่งใจเต้นตุ๊บ ชักคลัทช์พลาด เครื่องดับอาจไหลจูบหน้าคันข้างหลัง ปล่อยคลัทช์แรงไปก็กระโดดไปชนคันข้างหน้า
มันคือ สิ่งที่นักขับหน้าใหม่ ยุคนี้หลายคนอยากจะขอผ่านการเรียนรู้แบบหนักๆ ไปสู่การใช้งานแบบง่ายๆ บางคนขอเพียงมีรถหนึ่งคันเพื่อเดินทาง นี่ไม่นับ กลุ่มนักขับวัยเก๋า ที่เริ่มเบื่อการใช้เท้าซ้ายมาตลอดช่วงชีวิต เกียร์ออโต้ จึงถูกจริตทุกๆ คน มากกว่า และ เสื่อมความนิยมในเกียร์ธรรมดาลงไปตามยุคสมัย
เมื่อไม่นานมานี้ มีมูลจากต่างประเทศ (ที่มา Tekegrafi) เผยว่า เกียร์ธรรมดา อาจจะหายไปในช่วงสิ้นทศวรรษ เรื่องนี้มีความจริงอยู่หลายประการและไม่ไก่กา แน่
ความจริงสำคัญข้อหนึ่งคือ การมาของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ รถสันดาปดั้งเดิมต้องขยับตัวสู่ ส่วนหนึ่งถูกขยับเป็นไฮบริดไป อีกส่วนหนึ่งยังคงเป็นสันดาปดั้งเดิมแต่ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น การพัฒนาเครื่องยนต์ และพลังงานที่เติมเข้าไปก็ส่วนหนึ่ง
การต้องทำให้มันต้องปล่อยไอเสียตามเป้าหมาย กลายเป็นโจทย์ที่ค่ายรถรับมาจากผู้คุมกฏเหล็กระดับนานาชาติ ยิ่งในภาวะโลกร้อน ก็เป็นสาเหตุสำคัญ ที่ยิ่งผลักดันเกียร์ธรรมดาจางหายไป
ถึงภาพที่บางคนมองอาจจะเป็นเช่นนั้น จนมีคำพูดแซะว่า อยากขับเกียร์ธรรมดา หรือ ?? “ซื้อกระบะสิครับ”
หากชะตากรรมของรถกระบะคงอีกไม่นานเช่นกัน อย่าง Ford ในอเมริกา เลิกผลิตเกียร์ธรรมดา ให้เครื่อง Power Stroke ไปตั้งแต่ปี 2010 บ้านเรา ไลน์อัพฟอร์ด 4 ประตู ปัจจุบันในประเทศไทย ทั้งหมด เป็นเกียร์ออโต้ ก็ดูสอดคล้องกับทิศทางทั่วโลก
เรื่องนี้อาจจะต่างไปบ้างในกระบะสัญชาติญี่ปุ่น ยังมีทางเลือกอยู่มากมาย ให้เล่น แต่อย่างมาสด้าเอง ล่าสุด เกียร์ธรรมดา เหลือในตัวแคปเริ่มต้นเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว ค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ได้อยากจะละทิ้งเกียร์ธรรมดา แต่เมื่อสถานการณ์บังคับ การช่วยให้เกียร์ธรรมดาอยู่รอด จึงถูกปรับจากรถตัวประหยัดโลว์คอส ไปสู่ รถพรีเมี่ยมขับสนุกเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณการขับขี่ แถมทำราคาได้มากขึ้น ซึ่งมาจากความนิยมของเกียร์ออโต้มากขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
แนวทางนี้เริ่มเห็นมาระยะใหญ่ ยกตัวอย่าง Ford พัฒนา Ford Fiesta ST เป็นรุ่นแรงแล้วยัดเกียร์ธรรมดาเข้ามา คู่กับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงขึ้น ทำมาตั้งแต่ Ford Fiesta รุ่น ที่ 5 และชัดเจนที่สุดในรุ่นที่ 6 ที่ทำรถแบบนี้ออกมาจริง
ฝั่งรถญี่ปุ่นเอง หลังจากยุค 90 มาเกียร์ธรรมดาในรถสปอร์ตก็ถูกทิ้งหายไปในหลายรุ่น แม้แต่ เจ้าถนนอย่าง Nissan GT-R ทายาทก๊อตซิลล่าเจ้าถนน ในรุ่น R35 ก็เปลี่ยนมาใช้ระบบเกียร์คลัทช์คู่รหัส GR6 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่ออัตราทดเกียร์ดีกว่า เกียร์ธรรมดา ฉับไวแม่นยำกว่าสับมือเป็นไหนๆ
ถ้าพูดถึงรถสปอร์ต ญี่ปุ่นที่เราส่วนใหญ่รู้จัก จะมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ยังทำเกียร์ธรรมดา ขายมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดสาย คันหนึ่งคือ Mazda MX-5 อีกคันคือ ตระกูล Honda Civic Type R ที่คบใช้ระบบเกีบร์ธรรมดา ตั้งแต่ยุคเครื่อง N/A ไปจนมาถึงตอนนี้ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ
อีกรุ่น คือ Subaru WRX ที่ยังมีเกียร์ธรรมดาให้เลือก แม้ว่าสั่งวันนี้อาจได้รับอีกทีปีหน้า แต่ก็ยังมีทางเลือกให้ลูกค้าได้จับจอง
อันที่จริง เกียร์ธรรมดาวันนี้ ยังอยู่เพียงรถสปอร์ตพลังขับ 300-400 ม้าเท่านั้น ส่วนในบรรดารถสปอร์ตสมรรถนะสูง ตระกูล ซุปเปอร์คาร์ทั้งหลาย ยกเลิกเกียร์ธรรมดาไปนานมากแล้ว
อย่างค่ายม้าลำพอง บางคนเชื่อว่า เกียร์ธรรมดา รุ่นสุดท้ายของ Ferrari คือ Ferrari F430 ซึ่งเป็นความจริงถ้าคุณมองว่า รถซุปเปอร์คาร์เฟอร์รารี่ ต้องเป็นเครื่องยนต์วางกลาง
ทั้งที่ความจริงแล้ว เกียร์ธรรมดา มีให้ลูกค้าเลือกในรถ Ferrari California สามารถสั่งได้ถ้าลูกค้าต้องการ
และรุ่นสุดท้ายจริงๆ ของ Ferari คือ 599 GTB มาพร้อมเครื่อง V12 มีรายงานว่า มีลูกค้าสั่งเกียร์ธรรมดา เข้ามาที่เฟอร์รารี่ราวๆ 30 คัน ตลอดการทำตลาดของรถรุ่นนี้
ทางด้าน Lamborghini รุ่นสุดท้าย คือ Murcielago พร้อมเครื่องยนต์ V12 อันเลื่องชื่อของมัน และเช่นกันรุ่นสุดท้ายในตระกูล V10 หนีไม่พ้น Gallado ส่วน McLaren สะบั้นเกียร์ธรรมดาไปตั้งแต่รุ่น F1
ถ้าลดชั้นลงมาทาง Porsche เราจะพบว่า Porsche เคยหย่าขาดเกียร์ธรรมดาไปตอนรุ่น 911 Turbo รหัส 997 ไปที แต่ตอนนี้ทางแบรนด์ กลับพลิกเอาเกียร์ธรรมดาใน ตัว 911 Carera T พกเกียร์ธรรมดา 7 สปีด มาให้สนุกสนาน ในราคาเริ่มต้น ที่ AAS ตั้งไว้ 12 ล้านกว่าบาทเลยทีเดียว
หากเทียบกับ 911 Carera เกียร์ออโต้ เคาะราคาถูกกว่า 1 ล้านบาท แต่จุดขายมันคือความสนุกเวลาคุณได้สับเกียร์ และนี่คือ ปอร์เช่นะ มีคนจำนวนไม่น้อยก็คงอยากได้ อยากสะสมไว้ดูต่างหน้า
ความจริง แนวทางการยกเกียร์ธรรมดา ให้เป็นพรีเมี่ยม เริ่มชัดขึ้น ไม่เพียงแต่ ปอร์เช่
ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น อย่าง โตโยต้า เอง ก็วางแนวทางนี้มาระยะใหญ่ในการปลุกตำนานอย่าง 86 ให้กลับมามีชีวิต ภายใต้การโลดแล่นผ่านรถสปอร์ต ขณะที่รถบ้านทั้งหมดของโตโยต้าใช้เกียร์ออโต้ รวมถึงระบบขับเคลื่อนไฮบริด
นั่นทำให้ โตโยต้า สบโอกาส ขุดเอาตำนานสปอร์ตยุค 90 กลับมาหลายรุ่นนำเสนอในแบบเกียร์ธรรมดา เช่น Toyota GR Yaris , Toyota GR Corolla , ก่อนจะปรับ Toyota GR Supra มีเกียร์ธรรมดา เพิ่มเข้ามา และคาดว่าจะยังมีอีกในอนาคต
ฝั่งฮอนด้าเอง ยุติรุ่นโลว์เกียร์ธรรมดาที่คนทั่วไปนิยมนำไปแต่งขับแรงในรถบ้านๆ รถเกียร์ธรรมดาสมัยใหม่ของฮอนด้า ก็เป็น Honda Civic Type R เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ก่อนที่เมื่อไม่นานมานี้ ฮอนด้าดูจะเริ่มรู้ว่า ไม่ควรทิ้ง สาวกคนไปไม่ถึง Type R จึงผลิต Honda Civic Si ออกมาปลอบขวัญ ให้เครื่องยนต์1.5 เกียร์ธรรมดา ขายในอเมริกา และ ญี่ปุ่น จนคนไทย จำนวนไม่น้อย อยากบอกฮอนด้าว่าอยากได้บ้าง
ฝั่งนิสสัน ก็พัฒนารถสปอร์ตเกียร์ธรรมดา ออกมาสืบสานตำนาน Nissan Z400 ในตระกูล Fairlady นำเสนอผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ส่วนซูบารุ ยังคงมีเกียร์ธรรมดา ในบรรดาสปอร์ต ยอดนิยม ทั้ง Subaru BRZ ,Subaru WRX
มาสด้ามีใน Mazda MX-5 และ Suzuki ปัจจุบัน มี Suzuki Swift Sport ทำตลาดอยู่ แต่ยังไม่มีว่าที่รุ่นใหม่ ออกมา ส่วนรถอย่าง Jimny ยังมี M/T ให้เลือกเล่นถ้าลูกค้าสนใจ
ด้านกลุ่มรถฝั่งยุโรป BMW แบรนด์ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ดูจะเป็นแบรนด์ที่ยังโปร เกียร์ธรรมดา ให้กับสิงห์นักขับทั้งหลาย ยังมีวางจำหน่ายในรุ่น M2 เมื่อปีกลายมีรุ่น M3 MT Final Edition ออกมา สั่งลาสาวก จนสร้างความตื่นตัวว่า BMW อาจไม่ผลิตเกียร์ธรรมดา อีกต่อไป
ทั้งหมดนี้ชี้ว่า วันนี้ผู้ผลิตรถยนต์จับเอาเกียร์ธรรมดา มาทำกำไรมากขึ้นผ่านสิ่งที่นักขับตัวยงโหยหา นั่นคือ การมีโอกาสสัมผัสความเป็นรถแบบในอดีต แป้น 3 แป้น การเย่อเท่าซ้ายสับเกียร์ด้วยตัวเอง แล้วกระชากแป้นฝั่งซ้าย เพื่อให้ชุดส่งกำลังต่อกับเครื่องยนต์ แล้วยังใส่ความสามารถทักษะตัวเองลงไปในการขับขี่ได้มากขึ้น ทำให้ควบคุมรถได้ดั่งใจอวัยวะในร่างกาย มันเป็นเสมือนดั่งวิญญาณของการขับขี่ ที่วันนี้เหือดหายไปจากหลายสิ่งที่รุมเร้า เวลาจะต้องพัมนารถสักคัน
มาวันนี้ เราต้องยอมรับว่า เกียร์ธรรมดา อาจจะใกล้สูญพันธ์ุ เกือบมาถึงสถานีปลายทางอย่างแท้จริง มีการคาดการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า นี่อาจจะเป็นทศวรรษสุดท้ายของเกียร์ธรรมดา อย่างน้อยที่สุดก็ในบรรดารถนั่ง-รถสปอร์ตทั้งหลาย
ในส่วนของรถกระบะ ลูกค้าบางกลุ่มยังต้องการเกียร์ธรรมดามากกว่า พวกเขารู้สึกมั่นใจในการขับขี่เวลาต้องบรรทุกหรือลากจูง รวมถึงในเส้นทางการขับขี่ออฟโรด หากพัฒนาการของเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก รวมถึงออพชั่นตัวช่วยต่างๆ สังคมนักขับเริ่มรับรู้ว่า การใช้เกียร์อัตโนมัติที่มีความสามารถ มีลูกเล่นตัวช่วย ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ สะดวกสบาย ปลอดภัย และมั่นใจกว่าในการขับขี่
การนับถอยหลังเกียร์ออโต้ในกลุ่มกระบะเริ่มเห็นภาพชัดขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู ทุกวันนี้บางรุ่นมีเพียงเกียร์ออโต้ให้เลือกเท่านั้น ยิ่งตัวท๊อปเครื่องแรงๆ วันนี้ไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกอีกต่อไป ยกเว้นบางค่ายที่ยังคาดว่ามีลูกค้าสนใจและยังอยากได้
คำถามที่น่าสนใจ เกียร์ธรรมดาจะขายต่อไป และยังได้รับความสนใจอีกนานแค่ไหน เมื่อคนรุ่นเก่าเริ่มจากไป คนรุ่นไม่ได้สนใจความสนุกในการขับขี่อย่างที่เคยเป็น แถมยังมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือก และ รถไฮบริดกำลังจะกลายมาเป็นตัวแทนสันดาปดั้งเดิม ทำให้คนขับเกียร์ธรรมดาได้ในวันนี้น้อยมาก เด็กยุคใหม่หลายคนไม่รู้จักเกียร์ธรรมดา และส่วนใหญ่อาจไม่สามารถขับพวกมันได้ด้วยซ้ำไป
ด้วยเหตุนี้ เกียร์ธรรมดา จึงกลายเป็นของเล่นคนวัยเก๋า คนที่คิดถึงการขับขี่อย่างในอดีต ความสนุกสนาน ดั่งรถมีจิตวิญญาณเชื่อมต่อสัมผัสทั้งหมดสู่ผู้ขับขี่โดยตรง ให้เป็นไปตามต้องการ จน จุดนี้กลายมาเป็นจุดขายสำคัญ ให้เกียร์ธรรมดา ก้าวข้ามมาเป็นของพรีเมี่ยม อย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้
ที่มาบางส่วนข้อมูล Motor Trend
บทความโดย Ridebuster ห้ามนำไปเผยแพร่ในช่องทางอื่น ทำซ้ำ หรือนำข้อมูลไปอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต