หนึ่งในสิ่งที่หลายคนอยากให้ Mazda นำกลับมาทำตลาดอีกครั้ง ไม่ได้มีแค่เรื่องของรถสปอร์ตตระกูล RX แต่ยังเป็นเรื่่องขุมกำลังโรตารี หรือเครื่องยนต์โรตีกันเลื่องชื่อ ซึ่งล่าสุดก็ดูเหมือนว่าความหวังของพวกเขาจะกลับมาส่องสว่างสดไสอีกครั้งตามการรายงานของสื่อในประเทศญี่ปุ่น

จากย่อหน้าข้างต้น สาวก Mazda หลายคนอาจแย้งว่า ทางแบรนด์ก็นำเครื่องยนต์โรตารีกลับมาทำตลาดใน Mazda MX-30 R-EV แล้วไง ? ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย

แต่เราต้องไม่ลืมว่าเครื่องยนต์โรตารี 1 โรเตอร์ 830cc ที่อยู่ในตัวรถ MX-30 R-EV นั้น แท้จริงแล้วมันไม่ได้มีไว้เพื่อขับเคลื่อนตัวรถโดยการส่งกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์ ผ่านชุดคลัทช์ ชุดเกียร์ ไปยังล้อโดยตรง แต่มีไว้เพียงเพื่อปั่นกระแสไฟไปเก็บในแบตเตอรี่แล้วจ่ายไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าอีกที เหมือนระบบ ePower ของ Nissan ต่างหาก

ซึ่งจากรายงานล่าสุดโดยสื่อญี่ปุ่นอย่าง BestCarWeb ก็ระบุว่าสิทธิบัตรเครื่องยนต์โรตารีชุดใหม่ที่ทาง Mazda พึ่งทำการยื่นจดเอาไว้ได้ไม่นานนั้น หมายถึงการนำเอาเครื่องยนต์โรตารีมาเป็นขุมกำลังสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อโดยตรงจริงๆ ในแบบที่นักซิ่งหลายคนต้องการ โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนในลักษณะของระบบ Mild Hybrid ต่างหาก

โดยสื่อต้นทาง ยังระบุรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า หากอิงตามข้อมูลในสิทธิบัตร ขุมกำลังใหม่ของ Mazda ครั้งนี้ จะเป็นการวางเลย์เอาท์เครื่องยนต์โรตารีแบบ Front-Mid Ship หรือก็คือ วางเครื่องยนต์ไว้ในตำแหน่งหลังแนวกึ่งกลางของชุดล้อคู่หน้า เพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในจุดเกือบจะกึ่งกลางรถมากที่สุด ซึ่งอันที่จริงก็เป็นการวางเครื่องยนต์ในลักษณะเดียวกันกับ RX-7 รวมถึงรถสปอร์ตคาร์อื่นๆที่ขาซิ่งรู้จักกันดี ทั้ง Honda S2000 หรือ Nissan GT-R R35

สิ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการส่งกำลังจากเครื่องยนต์โรตารี ผ่านชุดเพลากลาง ไปยังชุดล้อคู่หลังของมัน จะไม่มีชิ้นส่วนล้อตุนกำลัง หรือ ฟลายวีลล์ มาช่วยสำหรับคุมเครื่องยนต์ในจังหวะสตาร์ท หรือทำให้เครื่องยนต์มีรอบเดินเบาที่สเถียร แต่จะอาศัยมอเตอร์ขนาด 25 kW ที่ยึดเข้ากับเครื่องยนต์มาช่วยคุมจังหวะเหล่านี้แทน ซึ่งมันก็น่าจะช่วยให้เครื่องยนต์สามารถไล่รอบได้สะดวกมากขึ้น และส่งผลในเรื่องของการเรียกอัตราเร่งในรอบต่ำที่ดียิ่งกว่าเดิม

ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ไว้หลังชุดเพลาล้อคู่หน้า ทำให้หมายความว่าตัวเครื่องยนต์ก็อยู่ติดห้องโดยสารมากพอสมควร จนแทบไม่มีพื้นที่ให้ติดตั้งชุดเกียร์ ทาง Mazda จึงตัดสินใจย้ายชุดเกียร์ไปติดตั้งไว้ในตำแหน่งเหนือชุดเฟืองท้ายทางด้านหลังอีกทีแทน ซึ่งเป็นลักษณะการวางตำแหน่งที่คล้ายกับ Nissan GT-R โดยมีผลดีในเรื่องของการกระจายน้ำหนักไปในตัว

นอกจากนี้เพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ทางวิศวกรก็ยังจะติดตั้งชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบ Mild Hybrid เอาไว้หลังแนวห้องโดยสาร และมีการติดตั้งถังน้ำมันไว้ด้านหลังจุดดังกล่าวอีกทีด้วย

และเพื่อเพิ่มขีดความสามารในการใช้งาน จึงมีความเป็นไปได้ที่ทาง Mazda จะใส่มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 17 kW เข้ามาสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าอีก

จึงส่งผลให้คราวนี้ ตัวรถจะสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ AWD เมื่อใช้งานรถด้วยโหมดขุมกำลังแบบ Mild-Hybrid, และยังสามารถขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเพียงอย่างเดียว ในโหมดการขับขี่พลังงานไฟฟ้าล้วนได้ด้วย แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับใครที่อยากออกจากหมู่บ้านแบบเงียบๆ,

ท้ายสุดคือความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยล้อหลังล้วนๆตามฉบับรถสปอร์ต เมื่อลูกค้าอยากสัมผัสอารมณ์จากขุมกำลังเครื่องยนต์โรตารีแบบเพียวๆ (แต่อาจมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งกับเครื่องยนต์คอยเสริมกำลังให้อีกหน่อยในช่วงรอบต่ำๆ)

และหากอิงจากข้อมูลชุดก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าทาง Mazda กำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณาขุมกำลังโรตารีแบบ 2 โรเตอร์กันอยู่ ว่าควรจะถูกนำมาติดตั้งในรถสปอร์ตรุ่นใหม่หรือไม่ ? เมื่อประกอบกับข้อมูลใหม่ชุดนี้ ก็ยิ่งมองเห็นความเป็นไปได้ว่าพวกเขาควรใช้เครื่องยนต์โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ เป็นหัวใจหลักจริงๆ เพราะมันต้องทำหน้าที่ปั่นไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนตัวรถ ซึ่งแน่นอนว่าการใช้เครื่องยนต์ 1 โรเตอร์ย่อมแรงไม่พอที่จะทำได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อมูลคราวนี้ ยังอยู่แค่ในขั้นตอนของ “การจดสิทธิบัตร” เท่านั้น จึงทำให้มันอาจจะเกิดขึ้นจริง ในเร็ววันหรือเป็นแค่เพียงทฤษฏีที่จดเอาไว้เพื่อไม่ให้คู่แข่งเอาไปทำก่อนเท่านั้นก็ได้

แต่ทางสื่อต้นทางก็ระบุว่าเราอาจได้เห็นตัวรถถูกเผยโฉมออกมาในช่วงต้นปี 2026 ซึ่งหมายความว่าร่างใกล้ขายจริงของมัน อาจปรากฏตัวในช่วงปลายปี 2025 เป็นอย่างช้า เราจึงต้องรอติดตามกันต่อไป ว่ามันจะเกิดขึ้นตามที่สื่อต้นทางคาดคะเนไว้หรือไม่ ?