แม้ Mercedes-Benz จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่มักนำเสนอการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยชุดจอแสดงผลขนาดใหญ่ แถมยังให้มาถึง 3 จอ แต่ล่าสุดเจ้าตัวกลับมองว่ามันไม่ได้ช่วยให้ตัวรถดูหรูขึ้นแต่อย่างใด และกำลังคิดหาวิธีแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
ราวกับว่าในช่วงขวบปีมานี้ ทาง Mercedes-Benz จะไปพบกับกระแสตอบรับต่างๆจากลูกค้าที่ทำให้ไอเดียต่างๆของพวกเขาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาดูติดๆขัดๆไปเสียหมด ยกตัวอย่างเช่น ไอเดียการทำไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้า ให้แยกออกจากรถยนต์สันดาปอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเตรียมจะยุบพวกมันรวมไว้ด้วยกันเพื่อลดความสับสนของลูกค้า เช่นเดียวกับงานออกแบบตัวรถเอง ที่จะกลับไปอ้างอิงนิยามเดียวกันกับรถสันดาปก็ด้วย
และล่าสุด จากการให้สัมภาษณ์ของ Gorden Wagener หัวหน้าฝ่ายงานออกแบบ ของ Mercedes-Benz กับสื่อ ABC News ก็ได้ระบุว่า แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีชุดจอ Hyperscreen ซึ่งทำให้คอนโซลหน้ารถของลูกค้ามาพร้อมกับจอแสดงผลถึง 3 จอด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์คือเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานตัวรถให้กับลูกค้า และทำให้รถมีความน่าสนใจมากกว่าใครในกลุ่มเดียวกัน
ทว่าท้ายที่สุด ในตอนนี้พวกเขากลับมองว่าไอเดียใส่หน้าจอใหญ่ๆ เข้าไปเยอะๆจนเต็มแผงคอนโซล กลับไม่ได้ทำให้รถดูมีความไฮโซหรูหรามากขึ้นแต่อย่างใดในสายตาลูกค้า แต่เป็นลูกเล่นที่อยู่ในจอต่างหาก ที่ควรจะถูกใส่ใจและทำให้มันน่าสนใจมากขึ้น
“เราไม่ได้พยายามจะใส่จอ Hyperscreen ให้กับรถทุกคันขนาดนั้นในตอนนี้, มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น” Wagener กล่าว “ในมุมของฮาร์ดแวร์ มันดีมากๆ, ในมุมของซอฟท์แวร์, มันไม่ได้ดีขนาดนั้น”
“เพราะเมื่อคุณมีหน้าจอขนาดใหญ่, คุณก็ต้องมีลูกเล่นที่น่าสนใจบนหน้าจอด้วย, ดังนั้นเราจึงพยายามสร้างลูกเล่นใหม่ๆที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และสร้างความบันเทิงมากขึ้น, การมีหน้าจอไม่ได้ทำให้รถหรูขึ้น, คือคุณก็มีหน้าจอที่ดีกว่า ใหญ่กว่าอยู่ที่บ้านอย่างจอโทรทัศน์แล้วไง, และรถทุกคันที่มีจอขนาดใหญ่”
“ดังนั้น เราจึงต้องสร้างบางสิ่งที่หรูหรามากกว่าหน้าจอ, นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำให้ผมถึงเน้นย้ำเรื่อง ความซับซ้อน และงานศิลป์จากมือมนุษย์ ที่ช่วยยกระดับให้รถยนต์ของ Mercedes ดีขึ้น”
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ Wagener ต้องการจะสื่อในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะลดความสำคัญของจอ Hyperscreen ลง แต่เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีที่หลายคนมองว่าล้ำสมัยในยุคปี 2025 กลายเป็นเทคโนโลยีที่คร่ำครึเมื่อเข้าสู่ปี 2040 เพราะตอนนี้รถหลายรุ่นมีแนวโน้มจะถูกขยายอายุตัวถังให้ยาวนานเกือบ 20 ปี
ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามใส่ลูกเล่นใหม่ๆเข้าไปให้กับตัวรถอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจจะเป็นลูกเล่นจากส่วนพ่วงใหม่ๆที่ถูกใส่เพิ่มเข้าไปในภายหลัง เช่นระบบกล้องสแกนหน้า หรือระบบสแกนลายนิ้วมือ และยังรวมถึงการปรับงานออกแบบส่วนควบต่างๆที่ยังคงต้องดูปราณีต
ขณะเดียวกันในทุกๆครั้งที่รถมีการปรับโฉม หรือแม้กระทั่งจะถูกขายไปอยู่ในมือลูกค้าแล้ว ตัวซอฟท์แวร์ที่เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญของหน้าจอ ก็จะต้องสามารถอัพเดทให้มีลูกเล่นที่สดใหม่อยู่เสมอสอดรับกับความต้องการของลูกค้าด้วย