Home » ลดกำลังผลิต Mercedes-Benz S-Class เหตุยอดขายร่วงหนัก
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

ลดกำลังผลิต Mercedes-Benz S-Class เหตุยอดขายร่วงหนัก

Mercedes-Benz S-Class ถือเป็นรถยนต์สุดหรูระดับเรือธงที่เศรษฐีหลายคนเลือกใช้มากเป็นอันดับต้นๆของโลกมานานหลายสิบปี แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้มันอาจไม่เป็นเช่นนั้นจนถึงขั้นที่ทางค่ายเองยังต้องยอมลดกำลังการผลิตลง

จากการเปิดเผยข้อมูลโดยทาง Mercedes-Benz ระบุว่ายอดขายรถยนต์ตระกูล S-Class ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ที่ผ่านมา พวกเขาสามารถขายรถซีดานเรือธงของจนเองไปได้เพียง 16,900 คันเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นยอดขายที่รวมทั้ง S-Class รุ่นปกติ, AMG, ไปจนถึงรุ่น Maybach เลยก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าลดลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อนถึง 37% อยู่ดี

นอกจากนี้ ในส่วนตัวเลขยอดขายของรถยนต์รุ่นเรือธงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Mercedes ไม่ว่าจะเป็น EQS, EQS SUV, และ GLS เมื่อรวมกับยอดขาย S-Class ข้างต้น ทางค่ายก็ยังสามารถทำยอดขายในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาของปี 2024 ได้เพียง 33,400 คัน เท่านั้น ซึ่งถือว่าลดลงจากปีก่อนอยู่ 23% ด้วยกัน

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่จะมีข้อมูลระบุว่าทาง Mercedes ได้ยืนยันกับสื่อเยอรมันว่าตอนนี้พวกเขาได้ปรับลดกำลังการผลิตของรถยนต์ตระกูล S-Class ลง เหลือเพียง “1 กะ” ต่อวัน เป็นระยะเวลาหลายเดือน ในโรงงาน Factory 56 ณ เมือง Sindelfingen

และเนื่องจากกำลังการผลิตลดลงมาก จึงทำให้มันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ลงไปถึงเหล่าพนักงาน ซึ่งยังที่ทาง Mercedes ใช้วิธีการโยกย้ายพนักงานส่วนเกินจากไลน์ผลิตที่ถูกลดกำลังการผลิตลง ให้ไปดูแลงานประกอบรถยนต์ระดับพรีเมียมรุ่นอื่นๆที่ยังคงต้องการใช้ทักษะขั้นสูงของพนักงานเหล่านี้อยู่แทน เช่นไลน์ผลิตรถยนต์ตระกูล EQS เป็นต้น

โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ของ Mercedes-Benz S-Class ร่วงหนัก ส่วนหนึ่งอาจไม่ได้เป็นเพราะความนิยมในตลาดรถซีดานสุดหรูลดลง แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งของคู่แข่งเมืองเบียร์อย่าง BMW ที่เปิดตัวรถยนต์ Series 7 เจเนอเรชันใหม่ออกมาโกยยอดขายเข้าฝั่งตนเองได้ดีด้วย

เพราะยอดขายรถยนต์รุ่นดังกล่าว เมื่อรวมกับยอดดขายของคู่แฝดร่างคูเป้อย่าง Series 8 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 สามารถทำตัวเลขไปได้ทั้งหมด 30,249 คัน ซึ่งถือว่าเติบโตกว่าปีก่อนที่ราวๆ 11.4%

โดยที่คู่แข่งอีกรายอย่าง Audi ก็ติดปัญหาเรื่องยอดขายรถยนต์ในกลุ่ม Premium D-Segment เช่นกัน หลังสามารถทำยอดขายรุ่นใหญ่ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน (ไตรมาส 1-2) ของปี 2024 ไปได้เพียง 5,788 คัน ซึ่งถือว่าลดลงกว่าเดิมถึง 46%

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ไล่เรียงมา ทำให้ทาง Mercedes-Benz ที่พึ่งประกาศตัดงบการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแพลตฟอร์มใหม่ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ต้องตัดสินใจนำงบส่วนหนึ่งจากก้อนดังกล่าวมาใช้เพื่อการพัฒนารถยนต์ตระกูล S-Class อย่างหนักหน่วง

โดยแม้มันจะเป็นแค่เพียงการปรับโฉมในระดับ Minor Change แต่ทางผู้บริหารสูงสุดของแบรนด์อย่างนาย Ola Källenius ก็ระบุว่าในการพัฒนา S-Class โฉมใหม่ตอนนี้ พวกเขาได้ทำการทุ่มงบลงไปมากกว่าที่ควรจะเป็นไปมาก สำหรับการพัฒนารถยนต์ร่างปรับเล็กทั่วๆไปเสียอีก ซึ่งเราก็มีแต่จะต้องรอการรอัพเดทกันต่อไปเท่านั้น ว่าท้ายที่สุดแล้วผลลัพท์มันจะคุ้มค่าหรือไม่ สำหรับการแก้เกมในครั้งนี้ของ Mercedes

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.