ย้อนไปช่วงกลางปี 2024 ที่ผ่านมา ได้มีผู้บริหารระดับสูงของ SAIC ระบุว่า MG จะมีการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบ Solid State เป็นครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งล่าสุดก็มีผู้บริหารอีกรายหนึ่งออกมาเกริ่นเพิ่มอีกว่าทางแบรนด์จะมีการประเดิมตลาดก่อนด้วยรถที่ใช้แบตเตอรี่แบบ Semi-Solid State ในปีหน้าด้วย
จากการให้ข้อมูลของนาย Zhou Yu ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ MG บริษัทแม่ในจีน ภายใต้การดูแลของ SAIC อีกทีหนึ่งบนแพตลฟอร์มโซเชียงมีเดียของประเทศจีนอย่าง Weibo ระบุว่าในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ทางแบรนด์ MG จะมีการเปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ในประเทศจีนอย่างน้อย 4 รุ่นด้วยกัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์โมเดลใหม่แบบ All-New 2 รุ่น และรถยนต์โมเดลใหม่ที่ถูกปรับโฉมจากรุ่นที่มีในปัจจุบันแบบ Minor Change อีก 2 รุ่น
จุดน่าสนใจก็คือ พวกเขาจะประเดิมตลาดรถยนต์รุ่นใหม่คันแรกของแบรนด์ในปี 2025 ด้วยตัวรถที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Semi-Solid State ก่อนที่จะมีการทำตลาดรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด เทคโนโลยีแบบ DMH ตามมาด้วยในภายหลัง
โดยแม้จะยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าตัวรถโมเดลใหม่ทั้ง 4 รุ่น จะมาพร้อมกับหน้าตาแบบใด หรือเป็นตัวรถในกลุ่มตลาดใดบ้าง แต่สำหรับรถที่จะใช้แบตเตอรีแบบ Semi Solid State เป็นคันแรกของแบรนด์ MG ทว่าแหล่งข่าวต้นทางก็ระบุว่ามันอาจเป็นรถที่มาพร้อมกับแบตเตอรีแบบเดียวกันกับ IM L6 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่อยู่ในแบรนด์เครือร่วม SAIC
ซึ่งจุดขายสำคัญของ IM L6 ที่ว่านี้ ก็คือหากเป็นรุ่นท็อปสุด “Light Year Edition” มันก็จะมาพร้อมกับแบตเตอรี Semi Solid State ซึ่งสามารถจุพลังงานได้มากถึง 123.7 kWh เนื่องจากตัวแบตเตอรีมีค่าความหนาแน่นเชิงพลังงานที่มากกว่า 300 Wh/Kg และช่วยให้มันสามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 1,002 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐานการทดสอบ CLTC
นอกจากนี้ ตัวแบตเตอรีลูกดังกล่าว ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมการจ่ายไฟระดับ 900 โวลท์ จึงทำให้มันรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่แรงสุดได้มากถึง 400 kW และทำให้รถสามารถกักตุนประจุไฟฟ้าสำหรับการวิ่งต่อด้วยระยะทาง 400 กิโลเมตร ได้ภายในเวลาเพียง 12 นาที เท่านั้น
โดยหากตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่ทาง MG เตรียมเปิดตัวเป็นคันแรกของปีหน้า มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในลักษณะเดียวกันนี้จริง มันก็น่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาน่าสนใจขึ้นมา จนลูกค้าหลายคนอาจไม่จำเป็นต้องรอไปใช้รถที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ Solid State เต็มตัวเลยก็เป็นได้
ทั้งนี้ จากการให้ข้อมูลในข้างต้น ดูเหมือนว่ามันอาจจะเป็นการย้อนแย้งเล็กน้อยกับข้อมูลที่ผู้บริหารอีกรายได้เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าทาง MG จะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลแรกที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ Solid State เต็มรูปแบบซึ่งพัฒนาโดย SAIC เอง ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
เนื่องจากหากแผนงานดังกล่าวยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่จริง เหตุใดทาง MG จึงตัดสินใจที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Semi Solid State ออกมาก่อนหน้ากันเพียงไม่ถึงขวบปีเช่นนี้ เนื่องจากมันอาจจะเป็นการแย่งตลาดกันเสียเอง หรืออาจไม่ส่งผลดีต่อยอดขายของตัวรถคันนี้มากเท่าไหร่นัก เพราะลูกค้าอาจตัดสินใจรอการมาของตัวรถที่ได้แบต Solid State เต็มรูปแบบ ที่จะตามมาในเวลาไม่ช้ามากกว่า
เว้นเสียแต่ว่าทางค่ายจะมีการแบ่งราคาของตัวรถไว้อย่างชัดเจน จนทำให้ลูกค้าลังเลเรื่องของเทคโนโลยีที่ติดรถมาน้อยลง หรืออย่างแย่สุดก็คือ ทางค่ายอาจจำเป็นจะต้องเลื่อนกำหนดการวางขายรถที่มาพร้อมแบตเตอรี่ Solid State เต็มรูปแบบออกไป และต้องทำตลาดรถแบตเตอรี่ Semi Solid State เพื่อกระตุ้นตลาดที่เริ่มซบเซาไปก่อนก็เป็นได้..