ปีที่แล้วข่าว การเตรียมควบรวม ระหว่าง Nissan – Honda นับเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการ ของ 2 แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น แต่จิกซอหนึ่งที่หลายคนจับตา คือ ทีท่าของมิตซูบิชิ ว่าจะตาม นิสสัน ไป หรือ ไม่ หลังจากเข้ามาอยู่ใต้นิสสัน มายาวนาน
ล่าสุด สื่อญี่ปุ่นชี้ว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ มีท่าที จะไม่เข้าร่วมกับ กลยุทธ์การควบรวมกับ ฮอนด้า ด้วยเหตุผลหลักๆว่าทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ มีตลาดหลักอยู่ที่แถบอาเซียน และมีกลยุทธ์แตกต่างจากทั้ง 2 บริษัท ซึ่งเน้นที่ตลาดอเมริกามากกว่า ทางอาเซียน
ข้อมูลนี้ ออกมาจากทาง โยมิยูริ ชิมบูน เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวภายในว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ มีแผนในการดำเนินตามสถานะของบริษัทเดิม และจะยังเน้นไปที่ การทำตลาอาเซียนเป็นหลักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ ยังคงมั่นใจว่า แม้ว่าไม่ได้เข้าร่วมในเชิงธุรกิจ (ควรรวมบริษัท) ทางบริษัท ก็น่าจะยังเป็นประโยชน์ในการดำเนินการ ผ่านความร่วมมือในเชิงเทคนิค และ ข้อตกลงพิเศษต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการควบรวม
ส่วนสำคัญ ก็มาจากความร่วมมือดังกล่าว ระหว่าง ฮอนด้า และ นิสสัน เป็นข้อตกลงในการพัฒนาระบบขับอัตโนมัติ และ การสร้างรถที่สามารถใช้ซอฟท์แวร์ในการควบคุมบุคคลิกของรถ หรือ SDV ซึ่งทั้งสองบริษัทเอง จะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา
อย่างไรก็ดี, การตัดสินใจของนิสสัน ในการ ไปรวมกับฮอนด้า อาจทำให้ มิตซูบิชิ ตัดสินใจกลับไปอยู่ใต้ปีก มิตซูบิชิเดิมก็ได้ หลังจาก นิสสัน ตัดสินใจเทขายหุ้น 10% ในปี 2024 จนมียอดถือครองเพียง 24% จากเดิม 34%
ขณะที่ มิตซูบิชิ คอร์เปอร์เรชั่น ยังมียอดหุ้นอยู่ถึง 20% ทำให้ สัดส่วนหุ้นที่แตกต่างกัน ของ นิสสัน และ มิตซูบิชิ คอร์ป แตกต่าง กันเพียง 4% เท่านั้น
ทว่ามิตซูบิชิเอง ก็ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่โตอะไรนัก ด้วยยอดมูลค่าหุ้นเพียง 700 พันล้านเยน ณ วันที่ 23 ของเดือนนี้ ซึ่งน้อยกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Honda ที่ 7.9 ล้านล้านเยน และ 1.6 ล้านล้านเยนของ Nissan
ปัจจุบัน มิตซูบิชิ เน้นทำตลาดในอาเซียน โดยโฟกัสที่รถกระบะ และ รถยนต์นั่งไฮบริด โดยในปีที่แล้ว ทำตลาด Mitsubishi Xpander HEV และ ปีนี้มีแผนในการแนะนำ Mitsubishi Xforce เข้าทำตลาดในประเทศไทย