จากความร้อนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยผู้ผลิตสัญชาติจีนทำให้ผู้ปลิตรถยนต์สัญชาติอื่นต้องปรับตัวกันยกใหญ่ โดยเฉพาะผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นที่ต้องพักรบกันก่อน เพื่อร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาภายใต้โปรเจ็กท์ร่วมกัน
โดยหลังจากที่ Nissan และ Honda ได้มีการประกาศจับมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรเจ็กท์ใหม่ ทั้ง “ระบบ AI, ชิ้นส่วนสำคัญในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า, และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง” เพื่อสู้กับผลิตภัณฑ์จากค่ายสัญชาติจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในส่วนของ “ระบบซอฟท์แวร์” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆในการพัฒนารถยนต์ ณ ปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้
ล่าสุดก็มีการประกาศข้อมูลว่าทาง Mitsubishi เอง ก็เตรียมจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กท์นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจากรายงานระบุว่าตอนนี้ทางค่ายดังกล่าวได้มีการเซ็นต์เอกสารสัญญา NDA เพื่อเข้าร่วมการตัดสินใจรูปแบบหรือทิศทางในการพัฒนาโปรเจ็กท์แล้วเป็นที่เรียบร้อย
และหลังจากที่มีรายงานข้อมูลการร่วมโปรเจ็กท์กันของทั้ง 3 แบรนด์ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ก็ดูเหมือนว่ามันจะทำให้เหล่านักลงทุนมั่นใจในพวกเขามากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ราคาหุ้นของทั้ง 3 บริษัทขยับตัวขึ้นเล็กน้อยอีก 6.3%, 2.8% และ 2.6% ตามลำดับ Mitsubishi, Nissan, และ Honda
แน่นอน ข้อดีที่สุดของการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็คือการลดต้นทุนการพัฒนา เพราะไม่ต้องไปทำแยกกันให้เสียเวลา แต่ทำด้วยกัน ร่วมกันทีเดียวได้เลย และยังช่วยให้การพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็วตามทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งนั่นอาจจะช่วยให้พวกเขาสามารถต่อกรกับผู้ผลิตสัญชาติจีนได้อย่างสมน้ำสมเนื้อมากขึ้น
และแม้ทั้ง 3 ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นจะไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดในการทำงานร่วมกันครังนี้เพิ่มเติม แต่เชื่อว่ามันอาจไม่ได้มีความซับซ้อน หรือทำให้พวกเขาต้องปรับแผนการทำงานใหม่ใหญ่โตมากนัก เพราะอันที่จริงทาง Mitsubishi ก็ทำงานร่วมกับ Nissan ภายใต้การนำทีมของ Renault มาตั้งแต่ปี 1999 อยู่แล้ว แถมในปัจจุบัน Nissan เอง ก็ถือหุ้นของ Mitsubishi ไว้แล้วกว่า 34% อีกด้วย
โดยการประกาศลงนามร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตร่วมกันของเหล่าผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นครั้งนี้ อันที่จริงก็ไม่ใช่ครั้งแรกของปี 2024 เพราะก่อนหน้านี้ทาง Toyota, Mazda, และ Subaru เอง ก็มีการลงนามให้ความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในอนาคตเช่นกัน
เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันคือ ทั้ง 3 บริษัทข้างต้นนี้ จะลงนามให้ความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาขุมกำลังแบบ “เครื่องยนต์สันดาปภายในยุคใหม่” เป็นหลัก ทั้งแบบ 4 สูบเรียง, โรตารี, และ สูบนอน เพื่อให้มันสามารถทำงานร่วมกับระบบขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ในลักษณะของขุมกำลังไฮบริด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานร่วมกับเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้อีกด้วย