ในปัจจุบัน ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ล่าสุด ทาง Mitsubishi กลับเลือกประกาศถอนตัวจากแดนมังกรแทนเสียอย่างนั้น
จากการเปิดเผยข้อมูลโดยสื่อดัง Bloomberg และสื่อบ้านเกิดของแบรนด์ Japan Times ระบุว่า ทาง Mitsubishi ได้มีการประกาศขอถอนตัวจากการดำเนินธุรกิจยานยนต์ในประเทศจีน โดยมีสาเหตุสำคัญคือปัญหาจากเรื่องยอดขายที่ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก เนื่องจากทางแบรนด์มีแต่รถที่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศข้างต้น
“ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา, ฝ่ายบริหารและหุ้นส่วนได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่เรามีแล้ว, แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการตลาด และด้วยความไม่เต็มใจและน่าเสียใจ, เราจำเป็นต้องหาความเป็นไปได้ในการแปรผันสู่เทคโนโลยียานพาหนะพลังงานใหม่ก่อน, เราจะกลับมาอีกครั้งหลัจากที่เราได้ผ่านปัญหาและความยากลำบาก(ในการพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือก)นี้ไป” หนึ่งในผู้บริหารของ Mitsubishi ในประเทศจีนกล่าว
นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ Mitsubishi ต้องตัดสินใจถอนตัวออกไป ก็ไม่ใช่แค่ปัญหาในเรื่องยอดขายเท่านั้น แต่ยังว่าด้วยเรื่องที่พวกเขาอยากทุ่มงบไปกับการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีไว้จำหน่ายในบางประเทศซึ่งไม่ได้เข้มงวดในเรื่องมลพิษ และลูกค้าก็ยังไม่ได้ตื่นตัวในเรื่องการหันไปใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ อย่างเช่นรถไฟฟ้าเสียก่อน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยของเรา ที่เป็นฐานการผลิตของ Mitsubishi Pajero Sport กับ Mitsubishi Triton ที่กำลังจะถูกเปิดตัวโฉมปรับใหม่ครั้งใหญ่ ในบ้านเราสัปดาห์หน้านี้
ไม่เพียงเท่านั้น หากมองที่ยอดขายของรถยนต์ซึ่งเป็นตัวขายดีของ Mitsubishi ก็จะเห้นได้ว่า ล้วนแล้วแต่เป็นรถยนต์ที่ไม่นิยมในประเทศจีนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวรถกระบะและพีพีวีที่เราเกริ่นไว้ข้างต้น และตัวรถเคคาร์ ที่ขายดีมากในประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่สามารถขายในที่อื่นใดได้เลย เนื่องจากปัญหาในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย
แน่นอน แม้การถอนตัวครั้งนี้ จะเป็นการถอนตัวเนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขาย แต่เนื่องจากทาง Mitsubishi เอง ก็มีแผนการที่จะพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือก หรือรถยนต์ไฟฟ้าอยู่บ้างแล้ว หลังทางค่ายมีการประกาศเม็ดเงินลงทุนไปแล้วกว่า 13,000 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 450,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาวางจำหน่ายให้ได้ภายในปี 2035
ดังนั้นแม้อาจจะอีกนาน แต่การถอนตัวจากประเทศจีนคราวนี้ ย่อมไม่ใช่การถอนตัวไปอย่างถาวรแน่นอน
