Home » งานวิจัยใหม่ กว่าครึ่งคนขับรถปัจจุบัน เมินระบบขับอัตโนมัติ
Autonomous-Car-Survey-1
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

งานวิจัยใหม่ กว่าครึ่งคนขับรถปัจจุบัน เมินระบบขับอัตโนมัติ

จะดีไหม ถ้าเรื่องราวการขับรถยนต์ในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น คุณเพียงตื่นให้ทัน แต่งตัวเตรียมพร้อมแล้วกระโจนขึ้นรถออกไปทำงาน จากนั้นที่เหลือเพียงบอกปลายทาง รถคุณก็จะเดินทางไปตามที่คุณต้องการ … 

เรื่องที่ดูฟังเหมือนนวนิยายวิทยาศาสตร์นี้กำลังเป็นจริงมากขึ้น เมื่อบริษัทรถยนต์ชั้นนำพยายามสร้างระบบขับอัตโนมัติมาตอบผู้ใช้ เพียงเพระาพวกเขาเข้าใจว่า คนต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึนทุกวี่วัน แต่ในความเป็นจ่ริง เราต้องการแบบนั้นกับคำว่า “ขับรถ” จริงๆ หรือ เพราะทุกวันนี้ ระบบขับรถกึ่งอัตโนมัติ  ก็อำนวยความสะดวกจนเราลืมคำว่าทักษะการขับขี่ไปได้เลย 

งานวิจัยชิ้นใหม่จาก Gartner Customer Trend   ชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ต้องการระบบขับอัตโนมัติ อย่างที่พวกเขาคิด โดยงานวิจัยชิ้นนี้ทำการสำรวจผู้ที่มีโอกาส ตจะซื้อรถยนต์ขับอัตโนมัติในอเมริกา และเยอรมัน  กว่า 1,500 คน และจากผลการสำรวจชี้ว่า กว่า ร้อยละ 55  ของผู้ตอบแบบสอบถามชี้ว่าพวกเขายังไม่อยากจะขับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบขับอัตโนมัติเต็มระบบ 

และจากการวิจียนี้กว่าร้อยละ 70 กล่าวว่าพวกเขาพร้อมสำหรับการขับรถยนต์ที่มีระบบช่วยขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ และพวกเขาสามารถควบคุมรถได้เมื่อต้องการ หรือ จำเป็น 

การศึกษาดังกล่าว ชี้ว่าคนส่วนใหญ่ยังกลัวที่จะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาควบคุมระบบอัตโนมัติ เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ยังเกิดข้อบกพร่องได้ตลอดเวลาที่มีการใช้งาน   และระบบขับอัตโนมัติอาจจะทำการล้มเหลวได้่นกัน แต่ส่วนใหญ่กล่าวว่า พวกเขามองว่าบางสถานการณ์ระบบขับอัตโนมัติไม่น่าจะปกป้องชีวิตพวกเขาได้ เช่นในภาวะการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในการขับขี่ หากระบบขับอัตโนมัติล้มเหลวร่วมด้วยอาจจะอันตรายถึงชีวิต 

นาย ไมค์ แรมซีย์ ผู้อำนวยการของ   Gartner Research   ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน สำนักข่าว CNBC   ว่าผู้คนไม่ได้กลัวระบบ แต่กลัวว่าจะทำอย่างไร เข้าควบคุมอย่างไรในสถานการณ์ฉุกเฉิน  รถขับอัตโนมัติที่ดีจะต้องพร้อมที่จะให้ผผู้โดยสารเข้าควบคุมได้ตลอดเวลา เมื่อมันเกิดล้อเหลว เพื่อช่วยชีวิตพวกเขาเอง จากระบบที่ไม่ปลอดภัย 

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.