ขณะที่รถยนต์หลากหลายรุ่น ค่อยๆถูกผู้ผลิตตัดออพชันเกียร์กระปุกทิ้งไป เพราะลูกค้ามีลูกค้าเพียงส่วนน้อย ถึงน้อยมากๆเท่านั้น ที่จะเลือกใช้มัน แต่นั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่ารถสปอร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Toyota GR Supra
หลังจากที่ทาง Toyota ได้ทำตลาดรถยนต์ GR Supra มาตั้งแต่ปี 2020 โดยปล่อยให้ลูกค้าหลายคนบ่นอุบเรื่องที่มันมีแต่ตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้เลือกซื้อเท่านั้นอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาต้องยอมทำรุ่นเกียร์กระปุก 6 สปีด คลัทช์เท้า ตามเสียงเรียกร้องในปี 2023
ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่พวกเขาควรจะทำมันตั้งแต่แรก เพราะในปีเดียวกันนั้นเอง หากนับเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา จากจำนวนลูกค้าที่เลือกซื้อรถ GR Supra ในสหรัฐอเมริกา กว่า 2,652 คัน มีลูกค้าที่เลือกซื้อรถพร้อมออพชันเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กันไปแล้วมากกว่า 1,140 คัน ซึ่งคิดเป็น 43% จากทั้งหมด และถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สูงมากแล้วในปัจจุบันที่ใครหลายคนนิยมใช้รถเกียร์อัตโนมัติมากกว่า
อย่างไรก็ดี ด้วยความต้องการ “ความดิบเถื่อน” ในฉบับของคนที่หลงไหลรถสปอร์ต ซึ่งต้องการย้ำคลัทช์ ลากรอบ เบิ้ลเครื่อง ต่อเกียร์ จึงทำให้แม้ในปี 2024 ยอดขายของรถ GR Supra ในสหรัฐอเมริกาจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 2,615 คัน แต่กว่า 1,700 คันของจำนวนนั้น คือรถที่ติดอออพชันเกียร์ธรรมดา ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างเห็นได้ชัดจนอัตราส่วนยอดขายของมันเพิ่มขึ้นมาเป็น 65% กันเลยทีเดียว
นั่นจึงทำให้ไม่น่าแปลกใจนัก ที่แม้ทาง Toyota USA จะต้องปรับแผนการทำตลาดรถยนต์ GR Supra ในปี 2025 ใหม่ แต่พวกเขากลับเลือกที่จะยกเลิกการทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 2.0 ลิตรเทอร์โบ ที่มีแต่ทางเลือกเกียร์อัตโนมัติทิ้งไป แล้วเหลือไว้แต่รุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเท่านั้นแทน
นอกจากนี้ ในฝั่งรถสปอร์ตขับหลังรุ่นน้องอย่าง Toyota GR86 ก็ยังมีลูกค้ากว่า 53% หรือ 6,056 คัน เป็นรถที่มาพร้อมกับออพชันเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จากยอดขายรถทั้งปีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขายไปได้ทั้งหมด 11,426 คัน
ซึ่งนี่ถือเป็นเลขบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าลูกค้าสายสปอร์ตต่างยังคงมีความต้องการที่จะได้ซึบซับในอรรถรสของออพชันเกียร์กระปุกกันอย่างล้นหลามดังเดิม แม้ระบบเกียร์อัตโนมัติจะในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ได้ถูกพัฒนาให้มอบประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่าเมื่อพูดถึงเรื่อง “การทำเวลา” ในสนามแข่งได้แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ด้วยความสามารถในการมอบความสะดวกสบายที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงในอีกแง่มุมหนึ่งยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของตัวรถได้เป็นอย่างดี (จากที่เมื่อก่อนเคยทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเกียร์กระปุก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน) จึงทำให้หากเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วๆไป ลูกค้าก็มักจะหันไปเลือกรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติมากขึ้นเรื่อยๆกันอยู่ดี ยกตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา ที่ลูกค้ารถกระบะ Toyota Tacoma กว่า 192,813 คัน มีเพียง 3,856 คัน หรือเพียง 2% เท่านั้น ที่เลือกรถออพชันเกียร์กระปุก เป็นต้น