กลายเป็นตลาดที่ก้าวขึ้นมามีความดุดันส่งท้ายปี เมื่อ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก กลุ่มอีโค่คาร์ออกมาประชันส่งท้ายปีนี้ ในงาน Motor Expo 2019 กลายเป็นเวทีรวมดาวเด่นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก กลับมาเป็นกระแสคนมองหารถยนต์ใหม่อีกครั้ง หลังจากตกเป็นของรถยนต์อเนกประสงค์มายาวนาน …
หมากเกมรถยนต์นั่งขนาดเล็ก คงต้องเริ่มด้วยโครงการอีโค่คาร์ระยะที่ 2 ออกมาส่งท้ายปี เริ่มจากค่ายนิสสัน งวดนี้ทำการบ้านมาดี ชิงธงเปิดตัว Nissan Almera ใหม่ ทุบความเชื่อด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 100 แรงม้าทำแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร
ขนาดตัวรถมีการปรับเพิ่มความกว้าง ให้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ที่น่าสนใจมากที่สุด คงเป็นเรื่องานออกแบบที่มีความลงตัวในการขับขี่ น่าใช้มากขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ , ระบบเตือนมุมอับสายตา และ ระบบกล้อง 360 องศา ซึ่งเราไม่เคยเห็นนิสสันมาจัดเต็มขนาดนี้มาก่อน ในราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม
ฝั่งเจ้าตลาดรายสำคัญ ฮอนด้า กลับมาพร้อมรถยนต์ขวัญใจขาวไทย ยอดนิยมในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Honda City งวดนี้รับสิทธิอีโค่คาร์ของภาครัฐเช่นกัน ยังมีการถกเถียงอยู่ว่า สรุป จะวางตัวเองไปทางไหน
ที่แน่ๆ ฮอนด้า ซิตี้ใหม่ ให้ความหรูหราทันสมัยมากขึ้น กว่ารุ่นเดิม เทียบกับ Nissan Almera มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย มุ่งเน้นการออกแบบฟังชั่นครบเครื่องตอบโจทย์ในการใช้งาน ตามสไตล์ฮอนด้า จะขาดก้ตรงพวกระบบความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งไม่มีเหมือนในคู่แข่ง
ที่แน่ๆ ฮอนด้าหมายมั่นปั้นมือด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ที่มีสมรรถนะการขับขี่สูงกว่า ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร มาทดแทนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรดั้งเดิม ตลอดจนยังมีความประหยัดสูงถึง 23.8 ก.ม./ลิตร จากการอ้างอิงของฮอนด้าอีกด้วย
ทางด้าน มิตซูบิชิ ถึงจะไม่เชิงว่า ออกมาใหม่หมดจด ทว่า Mitsubishi Mirage และ Mitsubishi Attrage ใหม่ ก็ได้รับการปรับโฉมมาสู่ใบหน้า Dynamic Shield แบบรถกระบะ-อเนกประสงค์ของมิตซูบิชิ
การปรับโฉมดังกล่าว คาดว่าเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ระหว่างรอพัฒนารถรุ่นใหม่ ตัวรถรุ่นนี้จึงยังออกมาในสไตล์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงออพชั่นบางส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามา มาทิ ระบบ Idling Stop หยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว เพิ่มความสามารถในด้านความประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม จนผ่านเข้าอีโค่คาร์เฟส 2 ได้สบายๆ
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย ระบบตัดการทำงานคันเร่ง เมื่อพบวัตถุทางด้านหน้า ในระยะไม่เกิน 4 เมตร , มีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติมาให้ และที่สำคัญ ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้ลูกค้าเลือกด้วยอีกต่างหาก
ด้านมาสด้า ส่ง มาสด้า 2 ใหม่ มาลงตลาด ชิงดำไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง ปรับหน้าตาให้มีความพรีเมี่ยมตอบลูกค้ามากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิม
ตัวรถรุ่นใหม่เน้นการปรับออพชั่นให้ตรงใจมากขึ้น ด้วยภายในสีใหม่ , ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ในแทบทุกรุ่นย่อย เครื่องเสียงพร้อมจอแสดงข้อมูล จอสัมผัส ,ล้ออัลลอยที่เป็นมาตรฐาน 15 และ 16 นิ้วในรุ่นบนๆ
แน่นอนว่า ยังมีระบบเครื่องยนต์เบนซิ 1.3 ลิตร ให้กำลัง 92 แรงม้า ให้แรงบิด 123 นิวตันเมตร เช่นเคย ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร 105 แรงม้าให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ให้อัตราประหยัดสูงสุด 26.3 ก.ม./ลิตร
ขับมั่นใจมากขึ้นด้วยระบบความปลอดภัย GVC Plus อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ทัดเทียม กับมาสด้า 3 ตลอดจนยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม อาทิ เตือนมุมอับสายตา , กล้อง 360 องศา , เตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง
ทางด้าน Toyota จัดการปรับเครื่องยนต์ใหม่ ให้ Toyota Yaris และ Toyota Yaris Ativ หันมาใช้เครื่องยนต์ 3 NR FKE ให้กำลัง 92 แรงม้า ทำแรงบิด 1098 นิวตันเมตร ยังส่งกำลังด้วยระบบ Super CVT I ใหม่
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ทางโตโยต้า ยังออกชุดแต่งพิเศษ สำหรับ Toyota Yaris ที่เรียกว่า Toyota Yaris Cross ชุดแต่งนี้สามารถซื้อได้ในราคาเพียง 35,000 บาท เท่านั้น มาพร้อมการตบแต่งมากกว่า มีอะไรๆ มากขึ้น ออกไปแนวอเนกประสงค์ ยกตัวรถสูง 30 มม. จากรุ่นปกติ
เพิ่มอำนาจในการลุยมากขึ้น และให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปจากรถยาริสปกติ เป็นการเดินเกมที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการรถเล็กที่มีสไตล์แตกต่าง
ศึก รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ส่งท้ายปี ต้องบอกว่าน่าสนใจมากหลายรุ่น ด้วยทั้งหมด เป็นการมาถึงยุค อีโค่คาร์ ระยะที่ 2 อย่างเต็มตัว ใครที่กำลังมองรถกลุ่มนี้ อย่าลืมไปแวะชมได้นะครับ ที่งาน Motor Expo 2019 ที่ อิมแพ้คชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี