Home » งานวิจัยเผย รถกระบะยุคใหม่ อันตรายต่อผู้ร่วมใช้ถนนมากกว่าที่คิด
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

งานวิจัยเผย รถกระบะยุคใหม่ อันตรายต่อผู้ร่วมใช้ถนนมากกว่าที่คิด

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ทิศทางการพัฒนารถยนต์ยุคใหม่ โดยเฉพาะในหมู่รถกระบะ นับวันก็มีแต่จะมาพร้อมกับขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น แต่อีกสิ่งที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ก็คือเรื่องความอันตรายต่อผู้อื่นเช่นกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดยงานวิจัยของ “ภาควิชาศูนย์การศึกษาอุบัติเหตุ ของวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลีย” หรือ “Monash University Accident Research Centre (MUARC)” ซึ่งว่าด้วยเรื่องของการศึกษาความเสี่ยงต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน กับรถกระบะ โดยอ้างอิงจากข้อมูลอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กับการศึกษาผลการทดสอบความปลอดภัยของตัวรถกระบะหลากหลายรุ่นโดยหน่วยงาน ANCAP ในระหว่างปี 2000-2020

และจากการศึกษาข้อมูลในข้างต้น ทางทีมวิจัย MUARC จึงได้ข้อสังเกตว่า รถกระบะในปัจจุบันนั้น สร้างอันตรายต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากขนาดตัวที่ใหญ่โต และน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ จนเป็นเหตุให้มันสร้างแรงปะทะและสร้างความเสียหาย ต่อผู้ที่ถูกชนได้มากกว่ารถยนต์ประเภทอื่นๆ

“มันอยู่ที่ราวๆ 5 เปอร์เซ็นต์ได้” ศาสตราจารย์ Stuart Newstead ผู้อำนวยการ MUARC เกริ่นในการให้ข้อมูลกับสื่อ CarExpert “คือถ้าคุณลองศึกษาตัวเลขตรงนี้ในฐานข้อมูล(อุบัติเหตุของประเทศ) เราก็จะพบว่ามีผู้คนต้องเสียชีวิตกว่า 50 หรือ 60 รายต่อปี เพราะการถูกชนโดยรถกระบะ”

“ซึ่งนั่นก็เพราะลักษณะทางกายภาพของรถ, มันถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกของหนัก” (แต่ก็มีแรงชนหนักด้วยเมื่อถูกปะทะ)

นอกจากนี้ MUARC ยังระบุอีกว่า จากการศึกษาข้อมูลรถกระบะกว่า 28 รุ่น ที่ถูกวางขายในช่วงปี 2000 – 2020 มีรถเพียงแค่ 5 รุ่นเท่านั้น ที่ได้คะแนนมาตรฐานความปลอดภัยในระดับ 5 ดาว จากหน่วยงาน ANCAP ได้แก่ Ford Ranger / Mazda BT-50 ช่วงปี 2011-2020, Holden Corolado (Chevrolet Corolado) ช่วงปี 2012-2020, Mitsubishi Triton ช่วงปี 2015-2020, และ Volkswagen Amarok ช่วงปี 2011-2020)

โดยสาเหตุที่ทำให้รถกระบะส่วนใหญ่ ไม่สามารถทำคะแนนมาตรฐานความปลอดภัยได้ดีพอ ศาสตราจารย์ Newstead ระบุว่าเป็นเพราะรถกระบะส่วนใหญ่เน้นที่การปกป้องผู้โดยสาร และมักสร้างความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันอื่นเมื่อมีการชนกันค่อนข้างมาก ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากน้ำหนักตัวรถที่ค่อนข้างมาก และเป็นเพราะความสูงของช่วงหน้าตัวรถ ที่มักเสยขึ้นไปบนรถยนต์คันอื่นซึ่งเล็กกว่าและเบากว่า จนเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในรถคันอื่นเจ็บหนัก จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

“ข่าวร้ายก็คือ เมื่อคุณมาดูเรื่องความแรงในการปะทะ(ของรถกระบะ)ที่เกิดขึ้นกับผู้ร่วมใช้ถนน, มันควรจะต้องทำได้ดีกว่านี้” ศาสตราจารย์ Newstead กล่าว “ความรุนแรงที่พวกมันทำกับรถยนต์คันอื่นนั้นค่อนข้างหนักหนา, นั่นจึงทำให้พวกมันไม่เคยถูกเลือกให้เป็นรถกลุ่ม Safer Pick* เลย”

“เมื่อคุณเลือกที่จะใช้รถกระบะ, มันก็เหมือนกับคุณเลือกที่จะผลักความเสี่ยงไปให้คนอื่น, ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวมากๆ”

“คุณจำเป็นต้องเห็นใจผู้ใช้รถคนอื่นๆ, แต่พวกมัน(รถกระบะ)นั้นไม่, พวกมันต่างน่ากลัว”

*ตำแหน่ง Safer Pick คือ ตำแหน่งสำหรับรถยนต์ที่น่าใช้ และมีความโดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ทาง MUARC ตั้งขึ้นมา

นอกจากนี้ ไม่ได้มีเพียงรถกระบะเท่านั้น ที่ดูอันตรายต่อผู้อื่นในสายตา MUARC แต่ยังรวมถึงรถยนต์ในกลุ่มอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่มีขนาดและลักษณะทางกายภาพ ซึ่งไม่หนีไปจากรถกระบะเท่าไหร่นักด้วย

“มีรถยนต์อยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน ที่คุณคงไม่อยากถูกพวกมันชนเข้า, รถขนส่ง(รถตู้ รถบรรทุก)ทั้งหลาย, รถกระบะ ที่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันมาก, และรถอเนกประสงค์ ที่ตามกันมาติดๆ”

“พวกมันต่างแย่เพราะต่างก็มีความรุนแรง (ในการปะทะ), ซึ่งเราไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะรถกระบะ”, “อันที่จริง, หากมองในภาพรวม, รถกระบะและรถบรรทุกคือกลุ่มที่แย่ที่สุด”

“ถ้าคุณเลือกซื้อรถกลุ่มล่าง(ในด้านความปลอดภัยต่อผู้อื่น)ของตลาด, มันก็เหมือนคุณเอาตัวเองไปเสี่ยงด้วย”

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.