KIA ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตที่น่าจับตามอง ด้วยความพยายามที่จะรุกตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง จากการดำเนินธุรกิจโดยบริษัทแม่ และในตลาดโลกเอง พวกเขาก็น่าสนใจด้วยเช่นกัน จากการประกาศล่าสุดที่ระบุว่าพวกเขาจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ภายในปี 2027 มากถึง 15 รุ่น
จากการเปิดเผยข้อมูลในงานประชุมผู้ร่วมลงทุนบริษัท ปี 2024 ทาง KIA ได้มีการระบุถึงทิศทางการทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ๆของตนเองในอนาคตให้กับผู้เข้าร่วมงานได้รับชมกัน โดยหนึ่งในนั้นมีไฮไลท์สำคัญคือการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ มากถึง 15 รุ่นด้วยกัน ภายในปี 2027 นำโดย KIA EV2, EV4, EV5 (ทำกำลังจะวางจำหน่ายในไทยเร็วๆนี้) และยังมีรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพานิชย์เตรียมเสริมทัพ
โดย 3 รุ่นที่จะถูกประเดิมเผยโฉมภายในปี 2024 ก็จะเริ่มจาก KIA EV3 ที่ถูกระบุว่าจะพร้อมเปิดตัวภายในช่วงไตรมาส 3 ของปี และยังมี KIA EV6 ซึ่งจะได้รับการปรับโฉมใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ภายในช่วงไตรมาส 2 และจะมีการเปิดตัวร่างปรับเล็กของตัวแรง KIA EV6 GT ตามมาภายในไตรมาส 4 ของปีด้วย (แต่จะขายอีกทีในปี 2025)
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารยังได้มีการเปิดเผยว่า ตัวรถอเนกประสงค์ระดับเรือธงอย่าง KIA EV9 ที่พึ่งนำมาเปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็จะได้รับการอัพเกรดทำร่างเสริมสมรรถนะรหัส GT ออกมาด้วยเช่นกัน และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ มันจะถูกเปิดตัวภายในช่วงต้นปี 2025 ตั้งแต่เดือนมกราคมนี้
และแม้พวกเขาจะมีแนวโน้มสู่การผันตัวเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในอนาคตอันใกล้ แต่ในระยะเวลาใกล้กว่านั้น พวกเขายังมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ขุมกำลังไฮบริดอีก 6 รุ่นด้วยกัน ภายในปี 2024 เพื่อให้สอดรับกับทิศทางของตลาดในปัจจุบัน และจะเพิ่มเป็น 9 รุ่นภายในปี 2028 เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า และเพื่อดันยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมของบริษัทให้ทะลุหลัก 1.6 ล้านคัน ภายในปี 2030
และในขณะเดียวกัน ทาง KIA ยังระบุว่าพวกเขาจะสามารถวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองได้มากกว่า 38% จากยอดขายรวมของแบรนด์ในตลาดโลก ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่กำลังดี เมื่อเทียบกับอัตราส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ในปัจจุบัน ที่คิดเป็น 10% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของตนเองในตลาดโลก
ส่วนทางฝั่งรถยนต์ขุมกำลังไฮบริด ทางค่ายก็ฝั่งว่ามันจะสามารถทำยอดขายได้ราวๆ 20% จากยอดขายรวมทั่วโลกในปี 2030 จากปัจจุบันที่คาดว่าจะสามารถทำส่วนแบ่งจากยอดขายทั้งหมดในปี 2024 ได้ราวๆ 14% เท่ากับว่าทางค่ายยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนมากกว่าดังเดิม แม้กระแสความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตรายอื่นๆจะมุ่งไปที่รถยนต์ไฮบริดมากกว่าแทนในตอนนี้ก็ตาม
