ในช่วงนี้บ้านเรา ดูจะเข้มงวดกวดขันในเรื่องความเร้วในการใช้รถใช้ถนน จนบางพื้นที่ อาจจะไม่เหมาะสมในการทำความเร็ว แม้ว่าจะเป็นถนนที่สำหรับใช้วิ่งระหว่างเมืองก็ตามที แต่ล่าสุด เรื่อง”ความเร็ว” ในการขับขี่ ยังคงเป็นต้นเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ จากงานวิจัยล่าสุดในอเมริกา
ผลการศึกษางานวิจัยล่าสุดในอเมริกา โดย NTSB หรือ National Transportation Safety Board ที่ทำการศึกษาระหว่างช่วงปี 2005-2014 โดยการรวมรวมข้อมุลของผู้บาดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยกว่า 112,580 คน ซึ่งเชื่อมโยงกับการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด มีจำนวนใกล้เคียงกับการเสียชีวิตโดยการเมาแล้วขับ ที่มีจำนวน 112,948 ราย
รายงานดังกล่าว ส้งผลให้ทาง NTSB แนะนำบริษัทรถยนต์ว่า ทางผู้ผลิตควรพิจารณาระบบปรับความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติ หรือ Speed Adaptation System ขึ้นมาเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนมากขึ้น และการติดตั้งระบบดังกล่าวนั้นจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนถนนจากการขับรถเร็วได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางองค์กรความปลอดภัยยังเปิดเผยว่า การขับรถเร็ว ไม่เพียงแค่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วยังอาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า การขับรถตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
แม้ว่าข้อมูลรายงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูล เป็นระยะเวลาถึงกว่า 10 ปี ในการศึกษาวิจัย แต่ทาง NTSB ยอมรับว่าข้อมูลดังกล่าวยังน่าตกใจ เพระาจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น เท่ากับสูญเสียประชากรของ Burbank เลยทีเดียว
นาย โรเบริท แอล ซัมวอลท์ ประธานทางด้านการจัดทำของ NTSB กล่าวว่า เราไม่สามารถจัดการทางด้านความปลอดภัยในการขับขี่ได้ ถ้าคนยังขับรถด้วยความเร็ว และด้วยงานวิจัยล่าสุดนี้ ทำให้เราเห้นภาพถึงอันตรายที่แฝงอยู่ของ การใช้ความเร็วในขณะขับขี่
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา ridebuster.com