Nissan Ariya Nismo เตรียมลุยทวีปยุโรป หลังจากที่ชื่อแบรนด์ Nismo ได้หายไปจากการทำตลาดในทวีปนี้ไปนานหลายปี และในคราวนี้ มันก็มาพร้อมกับจุดเด่น จุดขายดั้งเดิมตามฉบับรถยนต์รุ่นพิเศษที่ได้รับการปรับแต่งจาก Nissan Motorsport นั่นคือทั้งในเรื่องของความสวยงาม และสมรรถนะการขับขี่
Nissan Ariya Nismo แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่ของใหม่เท่าไหร่นัก เพราะมันได้ถูกเปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยจุดแตกต่างสำคัญของตัวรถรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับร่างต้น ทาง Nissan EU ก็ระบุว่ามันมาพร้อมกับการปรับแต่งชิ้นส่วนติดรถต่างๆมากมาย ทั้ง ผ้าเบรกที่สามารถทำงานได้อย่างกระชับฉับไวมากขึ้น, ขุมกำลัง e-4ORCE ที่ถูกปรับจูนใหม่ ให้สามารถเรียกกำลังและกระจายแรงบิดไปสู่ล้อได้ดีกว่าเดิม และยังมีการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ ให้ตัวรถมีสมรรถนะในการควบคุมที่ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
ด้านขุมกำลังตัวรถ ก็คาดว่าจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ตาม 2 รุ่นย่อย เช่นเดียวกับรุ่นที่ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่รุ่นเริ่มต้น ที่ใช้ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลือนชุดล้อทั้งสี่ B6 e-4ORCE ซึ่งให้กำลังสูงสุดรวมกันที่ 367 PS และแรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 66 kWh
ขณะที่ตัวรถรุ่นท็อป จะใช้ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลือนชุดล้อทั้งสี่ B9 e-4ORCE ซึ่งให้กำลังสูงสุดรวมกันที่ 435 PS และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 91 kWh
นอกนั้นในส่วนรายละเอียดงานตกแต่งอื่นๆของตัวรถ ก็จะเน้นไปที่โทนสี เทา-แดง ซึ่งเป็นสีที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ Nissan GT-R R35 Nismo โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร ที่ทาง Nismo ระบุว่านอกจากการตกแต่งชิ้นส่วนภายในด้วยโทนสีดำแดงที่ดูดุดันแล้ว เบาะนั่งคู่หน้าของมันยังได้รับการออกแบบรูปทรงให้คล้ายคลึงกับตัวแข่ง Formula E อีกด้วย
ขณะที่การตกแต่งภายนอก ตัวรถก็จะได้รับการติดตั้งชุดกันชนหน้าและกันชนท้ายใหม่ พร้อมลิ้น หรือสเกิร์ตรีดอากาศรอบคัน ที่ติดตั้งเข้ามาเพื่อให้ตัวรถดูเตี้ยและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมด้วยแถบสีแดงตามชิ้นส่วนต่างๆ พร้อมเสริมด้วยชุดลิปสปอยเลอร์ติดตั้งไว้เหนือแนวไฟท้าย กับชุดครีบรีดอากาศ 2 ชิ้นด้านบน และยังมีการติดตั้งชุดล้อ Enkei ขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport
นอกจากนี้ ทาง Nissan Nismo ยังมีแผนที่จะเปิดตัวรถแฮทช์แบกรุ่นใหม่ออกมาด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็น Nissan Note Aura Nismo ร่างปรับโฉมแบบ Minor Change โดยสังเกตได้จากรูปทรงตัวถังที่มีความใกล้เคียงกับตัวรถรุ่นปัจจุบัน และกำหนดการเปิดตัวที่แท้จริงของมัน ก็คือภายในวันที่ 18 กรกฏาคมนี้เอง รอติดตามชมกันได้เลย
