แม้จะล้มเหลวในการทำตลาด Nissan Titan จนต้องประกาศยุติการขาย แต่ทางค่ายก็ยังไม่ยอมแพ้ เตรียมส่ง “กระบะไฟฟ้า” รุ่นใหม่ออกมาสู้แทน แม้ว่าเบื้องต้น มันจะเป็น “กระบะขนาดเล็ก” ก็ตาม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลจากการให้สัมภาษณ์โดยนาย Tyler Slade ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในประธานกรรมการที่ปรึกษาของ Nissan ในสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตลาดรถกระบะขนาดใหญ่ ระดับ Full-size truck นั้น สามารถสร้างกำไรในการขาย และกำไรจากการขายอะไหล่ รวมถึงการให้บริการหลังการขายได้มาก
และนอกเหนือจากนั้น ยังเป็นเหมือนตัวเลือกขั้นกว่าให้กับคนที่อยากจะกระโดดขึ้นมาจาก Nissan Frontier (กระบะโมเดลคู่ขนานกับ Nissan Navara ในไทย) ที่ยังคงรักในแบรนด์ด้วย
ดังนั้น รถกระบะขนาดใหญ่ จึงไม่ได้เป็นเหมือนทางเลือกที่เพิ่มประสิทธิภาพ(กำไร)ในการขาย แต่ยังช่วยดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าที่ซื้อหรือทำฟลีตปล่อยเช่า “ธุรกิจมักเลือกที่จะใช้รถในฟลีตจากแบรนด์เดียวกัน ด้วยเหตุผลในเรื่องของการซ่อมแซม” Slade กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ Automotive News ถึงความสำคัญของ Nissan Titan ที่กำลังจะถูกยุติการผลิตไป
แต่ในขณะที่ Nissan Titan ไม่สามารถทำยอดขายที่ดีได้เลย โดยเฉพาะในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ที่มันทำยอดขายไม่ติดในกลุ่มรถกระบะ 15 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกาเสียด้วยซ้ำ แถมยังโดนเขี่ยทิ้งโดย Rivian R1T ซึ่งเป็นกระบะไฟฟ้าน้องใหม่ของประเทศที่ทำยอดขายไปได้ 20,000 กว่าคัน
ฝั่ง Nissan Frontier ที่เป็นรุ่นน้องของมัน กลับสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับที่ 9 ของตลาดรถกระบะในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยตัวเลข 76,183 คัน ในปีที่ผ่านมา โดยตามหลังเหล่ากระบะขนาดใกล้เคียงกันอย่าง Ford Ranger, Ford Maverick, Honda Ridgline เพียงไม่มากเท่านั้น
นั่นจึงทำให้ทาง Nissan มองว่าถึงพวกเขาจะมีความจำเป็นต้องพักจากตลาดกระบะขนาดใหญ่ไปก่อน แต่ตนยังสามารถขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดกระบะขนาดเล็กได้อีกไกล ดังนั้นการเพิ่มทางเลือก หรือเตรียมเปลี่ยนทางเลือกให้กับลูกค้า ด้วยการทำรถกระบะขนาดเล็กที่มาพร้อมขุมกำลังไฟฟ้า 100% จึงอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า และยังสามารถต่อยอดไปถึงในอนาคตได้อีกด้วย
“รถ Frontier Hardbody คือส่วนหนึ่งของ Nissan มาแล้วกว่าทศวรรษ” Slade กล่าว “ดังนั้นมันจึงไม่แปลก ที่เราจะทำร่างไฟฟ้าของมันออกมา” (แต่ยังไม่บอกว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน ?)