แม้จะมีข่าวให้หวั่นใจกันไปพอสมควรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ Nissan ยังคงพยายามรักษาความเป็นตัวตนด้านรถซิ่งของตนเองอยู่ โดยการเตรียมเข้าร่วมงาน Tokyo Auto Salon 2025 โดยมีหัวหอกสำคัญประจำบูธคือ Nissan GT-R R32 ที่ถูกดัดแปลงใหม่โดยใส่ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า 100% เข้าไป

Nissan GT-R R32 EV ชื่อนี้หากเป็นสาวก Nissan คงรู้สึกคุ้นชินกันมาบ้างแล้ว เพราะมันคือโปรเจ็กท์ที่ทางค่ายเคยปล่อยทีเซอร์ออกมาเมื่อเดือนมีนาคมปี 2023 ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ฮือฮาในเหล่าสาวกอยู่มาก เพราะบางมุมก็มองว่ามันเป็นเหมือนการฟื้นชีพให้กับเจ้าตำนาน ด้วยการเปลี่ยนหัวใจใหม่ที่อาจทำให้มันสามารถโลดแล่นต่อไปบนท้องถนนที่ผู้คนใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ยาวนานขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางส่วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากมันคือการทิ้งมนต์สเน่ห์แห่งสุ้มเสียงและความเกรี้ยวกราดของขุมกำลัง RB26DETT ไป

อย่างไรก็ดี ในขณะที่เหล่าสาวกทั้งสองฝั่งเถียงกันจนเรื่องเงียบ แต่ท้ายที่สุดทาง Nissan ก็ไม่ได้มีการแสดงความเคลื่อนไหวใดๆต่อของโปรเจ็กท์นี้ออกมามากนัก โดยมีแค่เพียงการทยอยอัพเดทคลิปสั้นๆ เพื่อให้สาวกได้เห็นความเคลื่อนไหวของโปรเจ็กท์เป็นระยะๆ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่ทางค่ายได้กลับมาเผยข้อมูลเล็กๆเกี่ยวกับเจ้าก็อตซิลล่าไฟฟ้าคันนี้อีกครั้ง เพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาใกล้พร้อมแล้วที่จะนำมันมาโชว์ตัวในงานรถแต่งประจำชาติ Tokyo Auto Salon 2025

โดยแม้จะยังคงไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถมากนัก แต่ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ทาง Nissan ก็ได้มีการทยอยอัพโหลดคลิปการทำงานและดัดแปลงตัวรถ GT-R R32 ให้กลายเป็นรถสปอร์ตขุมกำลังไฟฟ้าอยู่เสมอเฉลี่ยเดือนละคลิป

ซึ่งเนื้อหาของคลิปจะมีระยะเวลาราวๆ 0.40-1.30 นาที โดยประมาณ ตั้งแต่การรับรถเข้ามาในอู่ลับของทางค่าย โดยคาดว่าจะเป็นรถที่ทาง Nissan ซื้อต่อมาจากลูกค้าที่มีการเก็บรถไว้ในสถาะค่อนข้างสมบูรณ์อีกที เพราะแม้ตัวรถอาจจะดูดี แต่เมื่อเปิดห้องเครื่องขึ้นมา เราก็จะเห็นร่องรอยของการเกิดสนิม และฝุ่นต่างๆตามชิ้นส่วนภายในห้องเครื่อง รอยกระเทาะต่างๆตามชิ้นส่วนช่วงล่าง หรือแม้แต่รอยบุบเพราะโดนเศษหินดีดที่หม้อน้ำ มากมาย ซึ่งเผยให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว เจ้าก็อดซิลล่าที่ถูกนำมาดัดแปลงคันนี้ ก็คงผ่านการใช้งานมาพอสมควร

จากนั้นหากให้ไล่เรียงเนื้อหาคลิปแต่ละชิ้นโดยคร่าวๆ เราก็จะพบว่าทางทีมช่างที่รับหน้าที่ดัดแปลงตัวรถ ก็ไม่ใช่แค่เอารถมายกเครื่อง แล้วใส่มอเตอร์เข้าไป แต่ก่อนที่พวกเขาจะแกะชิ้นส่วนของรถ ทางทีมต้องทำการแปะมาร์คเกอร์ เพื่อใช้เครื่องยิงลำแสงเลเซอร์คอยวัดระยะชิ้นส่วนต่างๆของตัวรถทั้งคันให้ครบทุกซอกทุกมุมก่อนไม่เว้นแม้แต่ในห้องเครื่องหรือใต้ท้องรถ

ซึ่งค่าที่ได้เหล่านั้น ก็จะถูกนำมาใช้ในการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆที่จะถูกใส่เข้าไปแทนของเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดการล้น หรือใหญ่เกินพื้นที่ห้องเครื่อง หรือห้องโดยสารจะใส่เข้าไปได้นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมเพลาขับและแพล่าง รวมถึงชุดระบบกันสะเทือนทั้งหมด ทั้งสำหรับชุดล้อคู่หน้าและคู่หลัง ที่ถูกใส่เข้าไปแทนของเดิม

และยังมีตัวกล่องแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่จะค่อยๆถูกสอดเข้าไปทางบานประตู แล้วนำไปวางติดตั้งบนแท่นที่ออกแบบไว้สำเร็จแล้วในช่วงเบาะแถวหลังในห้องโดยสาร และนั่นหมายความว่าตัวผู้ขับและผู้โดยสาร จะนั่งอยู่บนรถโดยมีแพ็คแบตเตอรี่เป็นกล่องขนาดใหญ่วางอยู่ด้านหลังโดยตรงเลยนั่นเอง

ที่น่าสนใจคือ จนตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าทางทีมช่างจะมีการติดตั้งแผ่นฉนวนกันไฟไว้เป็นกำแพงคั่นห้องโดยสารระหว่างครึ่งหน้าที่เป็นฝั่งเบาะผู้ขับกับผู้โดยสารกับห้องโดยสารครึ่งหลังที่กลายเป็นห้องสำหรับติดตั้งแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ไปแล้วหรือไม่อย่างไร

น่าเสียดายที่คลิปล่าสุด Vol.15 เราไม่สามารถนำมาฝังให้คุณผู้อ่านได้ชมกัน แต่หากใครอยากชมก็ลองดูกันได้ในแอคเคาท์ Nissan JP แพลตฟอร์ม X ซึ่งจะเผยให้เห็นว่าตอนนี้รถได้ถูกประกอบจนเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังนำขึ้นรถเทรลเลอร์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นสนามทดสอบ หรืออู่อีกแห่งที่มีไว้เพื่อติดตั้งระบบสายไฟทั้งหมดให้สมบูรณ์ และปรับจูนมอเตอร์ไฟฟ้าให้เจ้า GT-R R32 EV สามารถวิ่งใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ก่อนนำไปโชว์ตัวจริงๆที่งาน Tokyo Auto Salon 2025 ช่วงเดือนมกราคมนี้ก็เป็นได้