Kia AD

Home » Osamu Suzuki อดีตประธานใหญ่แบรนด์ Suzuki กว่า 4 ทศวรรษ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี

Kia AD

Suzuki AD

ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Osamu Suzuki อดีตประธานใหญ่แบรนด์ Suzuki กว่า 4 ทศวรรษ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี

Osamu Suzuki อดีตประธานใหญ่แบรนด์ Suzuki ผู้ผลิตยนตกรรมเจ้าดังจากญี่ปุ่น ที่ครองตำแหน่งนานกว่า 4 ทศวรรษ ได้รับการรางงานว่าเสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี จากอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา

จากการประกาศข้อมูลโดลทาง Suzuki Motor Corp. เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ระบุว่า นาย Osamu Suzuki ได้เสียชีวิตแล้วในช่วงเวลา 15.53น. ของวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นจากอาการป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปิดตำนานอดีตประธานบอร์ดบริหาร และประธานกรรมการบริหารบริษัทผู้ยิ่งใหญ่ของแบรนด์ที่เคยถือครองตำแหน่งการบริหารสูงสุดอันยาวนานรวมกว่า 4 ทศวรรษ ซึ่งถือว่าเป็นการดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่นานที่สุดในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ของผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

นาย Osamu Suzuki หรือชื่อเดิม Osamu Matsuda เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี ค.ศ. 1930 ณ จังหวัด ชิฟู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแต่เดิมเจ้าตัวไม่ได้เป็นสมาชิกครอบครัวของตระกูล Suzuki ผู้ก่อตั้งบริษัท Suzuki Motor Corp.

แต่เนื่องจากผู้บริหารสูงสุดคนก่อนอย่างนาย Jitsujiro Suzuki ไม่มีลูกชายที่สามารถเข้ามารับตำแหน่งต่อได้ ตามธรรมเนียมการบริหารของบริษัท (ต้องให้ลูกชายของตระกูลเท่านั้น มาสานต่อธุรกิจ) นาย Osamu Matsuda ที่เป็นสามีของนาง Shoko Suzuki*2 ซึ่งเป็นหลานสาวของนาย Michio Suzuki ผู้ก่อตั้งบริษัท จึงต้องเปลี่ยนนามสกุล และกลายเป็นสมาชิกครอบครัวบุญธรรมของตระกูล Suzuki และได้ขึ้นเป็นประธานคนที่ 4 ของบริษัท*1 ไปโดยปริยายในปี ค.ศ. 1978

*1 : อันที่จริงแล้ว ผู้บริหารสูงสุดของ Suzuki Motor Corp. ลำดับที่ 2 และ 3 ต่างก็เป็นลูกบุญธรรม ที่แต่งเข้าตระกูล Suzuki เช่นกัน เนื่องจากผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างนาย Michio Suzuki ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดลำดับที่ 1 กับ นาย Shunzo Suzuki ผู้บริหารสูงสุดลำดับที่ 2 หรือแม้แต่ นาย Jitsujiro Suzuki ผู้บริหารสูงสุดลำดับที่ 3 ก็ไม่มีลูกชายมาสืบทอดบริษัทต่อเลยสักคน

*2 : นาง Shoko Suzuki คือลูกสาวคนโตของนาย Shunzo Suzuki ผู้บริหารสูงสุดลำดับที่ 2 ของบริษัท Suzuki Motor Corp. ซึ่งเมื่อ นาย Jitsujiro Suzuki ผู้บริหารสูงสุดลำดับที่ 3 ก็ไม่มีลูกชายมาสืบทอดบริษัทเช่นกันกับ นาย Shunzo จึงทำให้นาย Osamu Matsuda ที่เป็นสามีของลูกสาว ของผู้บริหารคนก่อน มีความเหมาะสมที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทคนใหม่ทันที

และแม้การได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทของนาย Osamu Suzuki อาจจะดูเหมือนได้มาเพราะการเป็นสามีของหลานสาวคนโตของประธานบริษัทลำดับที่ 2 แต่ความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวก็มีความสามารถในการบริหารอยู่พอสมควร เพราะในความเป็นจริงแล้ว เขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 (ก่อนขึ้นมาเป็นประธานบริษัทราวๆ 20 ปี) และได้รับความไว้วางใจ ให้ขยับตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ

โดยเขาได้เป็นทั้งบุคลากรระดับผู้อำนวยการ ในปี ค.ศ. 1963 ต่อด้วยการดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ในปี ค.ศ. 1967 และเป็นกรรมการผู้จัดการอาวุโส ในปี ค.ศ. 1973 ก่อนที่จะขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารสูงสุด ในปี ค.ศ. 1978 นั่นเอง

และจากนั้นเป็นต้นมา ภายใต้การบริหารงานของนาย Osamu Suzuki เขาก็สามารถพาบริษัท Suzuki Motor Corp. ก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตยนตกรรมชั้นนำของโลก โดยเฉพาะความโดดเด่นในเรื่องของการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ทางแบรนด์เป็นเจ้าแรกๆที่สามารถตีตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ได้สำเร็จ และในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เอง แบรนด์คนบ้า ก็เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากลโลก ในยุคที่เจ้าตัวยังคงดำรงตำแหน่งอยู่เช่นกัน

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเป็นอีกหนึ่งต้นหนสำคัญ ในการเข้าร่วมมือกับรัฐบาลอินเดีย และก่อตั้งเป็นบริษัท Maruti Suzuki เมื่อปี ค.ศ. 1982 จนทำให้แบรนด์ Suzuki สามารถตีตลาดและตอนนี้ก็เป็นเจ้าตลาดของตลาดรถยนต์ในประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่ามีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เช่นเดียวกับการแผ่ขยายฐานการผลิตและฐานลูกค้าไปยังประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง ในแบบที่ผู้บริหารทั้ง 3 ท่านก่อนหน้ายังไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งถือเป็นการบริหารที่ทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นจากตอนแรกที่เจ้าตัวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดไปไกลมากเลยทีเดียว

ทางทีมงาน Ridebuster ขอแสดงความเสียใจ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.