ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายที่ใหญ่ที่สุดของลัมโบร์กินีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้พื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้น 5,000 ตารางเมตร
บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในเครือชาริช โฮลดิ้ง เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัว “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งเป็นหนึ่งในศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถเข้าซ่อมบำรุงได้มากที่สุดของทุกภูมิภาค
ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ลัมโบร์กินีในประเทศไทย โดยโชว์รูมและศูนย์บริการของลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ที่ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งอยู่บนพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้นกว่า 5,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่ภายในโชว์รูม 465 ตารางเมตร พื้นที่ภายในศูนย์บริการกับคลังอะไหล่ 1,720 ตารางเมตร และพื้นที่สำนักงานกับพื้นที่ใช้สอยเบ็ดเตล็ดอีก 2,538 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร บนถนนวิภาวดีรังสิต
โชว์รูมและศูนย์บริการของลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ มีการตกแต่งภายนอกที่สะดุดตาด้วยโลโก้ลัมโบร์กินีสีเหลืองบนพื้นหลังสีดำ เมื่อเข้าสู่ด้านในจะพบกับเหลี่ยมมุมการดีไซน์ที่ลุ่มลึก พื้นผิวและการจัดแสงที่รับกัน ช่วยขับความงามของลัมโบร์กินีที่เป็นดั่งชิ้นงานศิลปะให้โดดเด่นออกมา โดยเฉพาะห้อง AdPersonam ที่สามารถเลือกปรับแต่งรถลัมโบร์กินีให้สะท้อนบุคลิกได้ตามต้องการ พร้อมเห็นตัวอย่างการตกแต่งภายนอกและภายในด้วยระบบ Interactive
ศูนย์บริการลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ เป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรแห่งแรกที่เป็นห้องปิดติดระบบปรับอากาศทั้ง 7 ช่องซ่อม พร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ควรค่ากับเจ้าของลัมโบร์กินีผู้ทรงเกียรติพึงได้รับ พร้อมให้บริการด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ครบถ้วน และทีมงานทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์มากกว่า 20 ปี สามารถรองรับรถลัมโบร์กินีได้มากกว่า 1,000 คันต่อปี ทำให้มั่นใจได้ว่าทีมงานสามารถวิเคราะห์สภาพรถและปรับแต่งให้รถหรูของทุกท่านพร้อมโลดแล่นด้วยสมรรถนะสมบูรณ์แบบมากที่สุด
นอกจากนี้ ในงานฯ ยังได้จัดแสดง “ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ” Lamborghini Aventador SVJ ให้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินีในเมืองไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกอีกด้วย
โดย ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เป็นรถยนต์แบบโปรดักชั่น ที่สามารถทำลายสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในสนามนูเบิร์กริง (ด้วยเวลาเพียง 6.44.97 นาที) ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร 770 แรงม้า ข่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น
นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว อเวนทาดอร์ เอสวีเจ มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น อเวนทาดอร์ เอสวีเจ ถึง 40% ส่งผลให้อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เป็นกระทิงเปลี่ยวที่ดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ลัมโบร์กินี
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com [ngg src=”galleries” ids=”878″ display=”basic_thumbnail”]