Home » Riddara RD6 บุกตลาดพวงมาลัยขวาออสเตรเลีย ลุ้นเข้าขายไทย !!
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Riddara RD6 บุกตลาดพวงมาลัยขวาออสเตรเลีย ลุ้นเข้าขายไทย !!

หลังจากเปิดไลน์การผลิตตั้งแต่ปีกลายสำหรับการโกอินเตอร์ของกระบะไฟฟ้าจาก GEELY อย่าง Radar RD6 หรือชื่อใหม่สำหรับตลาดโลกอย่าง Riddara RD6

ด้วยบอดี้รถแบบเดียวกับที่ขายจีนแต่ปรับหน้าตาเพื่อเข้ากับตลาดส่งออกเปลี่ยนโลโก้เป็นแบรนด์ RIDDARA บนขอบฝากระโปรงแบบหนา ไฟหน้า LED ดีไซน์เท่ และไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียว พร้อมกระจังหน้าแนวนอนลายรังผึ้งดีไซน์หรูพร้อมขอบโครเมียมด้านล่าง รับกับกันชนหน้าแบบมีช่องระบายอากาศใหญ่ถึงสามช่องกับฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่

คิ้วขอบล้อขนาดใหญ่แบบขึ้นรูปในชุดบังโคลนหน้าเรียบเนียบดุดัน พร้อมการดีไซน์ประตูข้างคล้ายๆกับรถเอสยูวีของค่าย ราวหลังคาและกระบะท้ายที่ออกแบบมาเรียบเนียนไร้รอยต่อกลายเป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของกระบะสไตล์เก๋งพร้อมช่องเสียบปลั๊กภายในกระบสำหรับรองรับฟังก์ชัน V2L ที่มีกำลังไฟ 2,100W ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED แนวยาวพาดท้ายและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สร้างจากพื้นฐาน Sustainable Experience Architecture (SEA)

ภายในมาพร้อมคอนโซลหน้าตกแต่งหุ้มหนังสัมผัส ระบบจอขนาด 12.3 นิ้ว 2 จอทั้งมาตรวัดความเร็วและจอสัมผัส Infotainment กับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน สามก้านทรงท้ายตัดหุ้มหนังจับกระชับมือมาพร้อมไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 72 สีและความสบายแบบ 5 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ปรับด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมที่ผสานรวมอย่างประณีตกับหลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่

ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิด 384 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.3 วินาที โดยแบ่งเป็นรุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบ LFP 63 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จตามมาตรฐาน CLTC 385 กิโลเมตร  ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 30 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 7 kW 20-100% ภายใน 7.9 ชั่วโมง

และรุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC 86 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จตามมาตรฐาน CLTC 517 กิโลเมตร ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 32 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 7 kW 20-100% ภายใน 11 ชั่วโมง พร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อ Riddara RD6 หรือ Radar RD6 เตรียมขายออสเตรเลียเร็วๆนี้และมีโอกาสจะเข้าขายด้วยหรือไม่นั้นต้องติดตามในครั้งต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.