ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าจากหลากหลายค่าย ต่างมาพร้อมกับสมรรถนะ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงสถานีชาร์จเองก็มีการกระจายตัวมากขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลกเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก
แต่จากงานศึกษาของ Ideal Power บริษัทด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดัคเตอร์ชื่อดังจากสหราชอาณาจักร กลับพบว่ามีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนกว่า 16% ที่เคยลากขับรถของตนเองจนแบตฯหมดเกลี้ยงไม่สามารถขับต่อไปไหนได้มาแล้ว
ขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 46% เลือกที่จะนำรถยนต์ของตนเองเข้าสถานีชาร์จตั้งแต่รถของตนเองมีปริมาณไฟฟ้าคงเหลือราวๆ 25%-49% และอีกกว่า 21% ที่เลือกจะชาร์จรถตั้งแต่แบตเตอรีรถยนต์ของตนเองมีปริมาณไฟฟ้าคงเหลือราวๆ 50%-74%
และเมื่อถามเหล่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า พวกเขากังวลในสิ่งใดมากกว่ากันเมื่อต้องใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ระหว่าง ความกังวลเรื่องสถานีชาร์จ (ว่าหากถึงเวลาต้องชาร์จ จะมีตู้ให้ชาร์จมั้ย ?) กับ ความกังวลเรื่องระยะทางคงเหลือจากปริมาณไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่สามารถขับไปต่อได้ แบบทดสอบก็พบว่ามีผู้ใช้กังวลเรื่องแรกที่ราวๆ 44% และกังวลในเรื่องหลังมากกว่า 56%
และนอกจากนี้ทางทีมเก็บข้อมูลยังพบอีกว่ามีผู้คนมากกว่า 44% ที่มองว่าความกังวลในเรื่องระยะทางการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า คือปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากเป็นอันดับต้นๆ
ถัดมา คือการพบเจอปัญหาจุดชาร์จเต็มที่เกิดขึ้นกับผู้ทำแบบสำรวจอีกมากกว่า 75% โดยกว่า 10% ในนั้นเคยรอเวลาในการชาร์จรถของตนเองเป็นชั่วโมงๆมาแล้ว แม้ว่าระยะเวลาในการรอสถานีชาร์จของผู้ใช้รถส่วนใหญ่กว่า 48% จะอยู่ที่ราวๆ 15 นาที ก็ตาม
และในเมื่อมีประเด็นเรื่องของสถานีชาร์จ แบบสำรวจยังบ่งชี้ว่า ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่กว่า 70% มักชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองที่บ้านเป็นหลัก โดยมีเพียง 16% เท่านั้น ที่จำเป็นจะต้องชาร์จไฟจากตู้ในสถานีชาร์จนอกที่พักอาศัย เพราะที่พักอาศัยของตนเองไม่มี หรือไม่รองรับ ส่วนอีก 14% คือกลุ่มผู้ใช้ที่ถัวเฉลี่ยสถานที่ชาร์จรถไปตามสถานการณ์ระหว่างที่บ้าน กับสถานีชาร์จนอกบ้านพอๆกัน แล้วแต่สถานการณ์ในแต่ละวัน
อย่างไรก็ดี แม้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร จะยังคงมีปัญหากังวลใจในเรื่องของการใช้งานตัวรถ แต่จากแบบสำรวจกลับพบว่ามีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 91% ที่ยังคงยืนยันจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่อไป เมื่อต้องซื้อรถยนต์คันใหม่
และหากให้เจาะลึกลงไปอีกนิด ก็จะพบว่าในขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ยังคงเลือกจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่อไปราวๆ 86% แต่ในฝั่งผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจาก Tesla กลับมองว่าพวกเขาจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่อไปแน่ๆอีกกว่า 95% ซึ่งเท่ากับว่าแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้สามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่าผู้ใช้ของตนเองได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว