Home » Tesla ส่อแววล่มสลาย เชื่อ 4-6 เดือน ล้มแน่
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Tesla ส่อแววล่มสลาย เชื่อ 4-6 เดือน ล้มแน่

กลายเป็นข่าวใหญท่ามกลางวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ เมื่อมีรายงานว่าบริษัทรถยนต์ชั้นนำทางด้านรถยนต์ ไฟฟ้า มีโอกาสสูงที่จะล้มพังพาบไปในอีกไม่นานต่อจากนี้ โดยรายงานจากนักวิเคราะห์ทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ชี้ว่า Tesla  อาจจะอยู่ไม่เกินในปีนี้ด้วยซ้ำ 

อนาคตการล่มสลายของ   Tesla   เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมาในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในชั่วโมงนี้ หลังหุ้นของบริษัท  Tesla   เสื่อราคาลง ถือ 4 พันล้านดอลล่าร์ เมื่อช่วงวันที่  27 มีนาคมที่ผ่านมา 

การเสื่อมราคาดังกล่าวชี้ถึงทิศทางที่ถดถอยของแบรนด์รถยนต์ไฟ้าสัญชาติอเมริกัน รายนี้ เชื่อว่ามาจากกระแสความกดดันรอบทิศทางต่อบริษัท ตั้งแต่การประกาศจับมือระหว่าง  Jaguar   และ Waymo   ,การประกาศหยุดผลิตชิประบบขับอัตโนมัติของ   N Vidia   ต่อกรณีรถยนต์ขับอัตโนมัติของอูเบอร์ชนคนเสียชีวิต

Tesla Model S

รวมถึง การลงสอบสวนต่อกรณี รถ   Tesla model  X  ไฟไหม้ ระหว่างขับอัตโนมัติ จนผู้ขับขี่เสียชีวิตหลังใช้ระบบขับอัตโนมัติ จนพุ่งชนแท่งปูน และ   NTSB   ประกาศเข้ามาร่วมตรวจสอบ 

อย่างไรก็ทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกัน ดูเหมือนจะไม่น่าเกี่ยวข้องกับการมีโอกาสล้มของ   Tesla   แต่นักวิเคราะห์  Vilas Capital Management  นาย จอห์น ทอมป์สัน กล่าวเปิดเผยว่า เขาได้ชี้แนะให้ผู้ที่สนใจะลงทุนกับเทสล่า หลีกเลี่ยงการลงทุน 

Tesla  Family

โดยเขามีทัศนคติกับบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษืใหญ่รายนี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่   Tesla   จะล้มละลายภายใน 3-6 เดือนต่อจากนี้ เนืื่องจากการไร้ความสามารถในการผลิตและส่งมอบรถยนต์   Tesla Model 3   ใหม่  รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคทั้ง   Tesla  Model S   และ   Model X   ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย 

ยิ่งเมื่อตรวจสอบในเชิงลึก พบว่า   Tesla   ต้องการเงินทุนอย่างน้อย 8 พันล้านดอลล่าร์ ในการต่ออายุให้บริษัทอยู่รอด เนื่องจาก แม้ว่า   Tesla  จะมีมูลค่ามากกว่าฟอร์ดเป็น 2 เท่า แต่ฟอร์ดผลิตรถปีละ 6 ล้านคัน เป็นอย่างน้อย แต่เทสล่าผลิตปีละ  1 แสนคัน แถม ขาดทุนต่อเนื่อง 2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ 

นายทอมป์สัน มัน่ใจว่า ถ้าไม่มีการร่วมทุน หรือมีผู้เข้ามาลงทุนรายใหม่  Tesla  จะจบข่าวอย่างแน่นอน  

ด้าน  Tesla   ไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ กับการออกมาเปิดเผยของ นาย ทอมป์สัน ส่วนบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้จะเป็นอย่าไรต่อไปคงต้องติดตามกัน  

 

ที่มา ahead.asia

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.