Gigacasting คือเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์แบบใหม่ ที่หลายผู้ผลิตต่างยอมรับว่ามันจะช่วยพวกเขาในหลายๆด้าน และ Tesla เอง ก็เป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีสำคัญ ในการหันมาใช้เทคโนโลยีการผลิตลักษณะนี้
อย่างไรก็ดี แม้ทาง Tesla จะอยากใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตรถยนต์ของตนเองมากแค่ไหน แต่จากข้อมูลล่าสุดโดยสื่อใหญ่อย่าง Reuters กลับระบุว่า ทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของโลกรายนี้กลับตัดสินใจที่จะชะลอแผนการก่อตั้งโรงงาน Gigacasting แห่งใหม่ของตนเองออกไปก่อนในตอนนี้
โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น หลักๆแล้วก็เป็นเพราะทาง Tesla กำลังประสบปัญหาทางด้านยอดขาย และความต้องการของลูกค้าในตัวผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่ลดลง ส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ตกลงอย่างน่าใจหาย
และเป็นเหตุเกี่ยวเนื่องทำให้เหล่านักลงทุนของบริษัทไม่กล้าสนับสนุนงบให้กับทางแบรนด์ และทำให้ทางแบรนด์ไม่สามารถทุ่มงบกับโปรเจ็กท์ใหญ่ๆได้อย่างสะดวกนักในที่สุด
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ Tesla ยังคงมองว่า การก่อตั้งโรงงาน Gigacasting แห่งใหม่ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะพวกเขายังมีโปรเจ็กท์รถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ๆที่ต้องถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้เท่านั้นอยู่ นั่นคือ Tesla Model 2 ที่ทางค่ายหมายมั่นปั้นมือให้มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายที่สุด ด้วยราคาจำหน่ายจริง เพียงแค่ราวๆ 25,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 923,000 บาท
และแม้การผลิตรถยนต์ด้วยกรรมวิธีนี้ อาจจะช่วยลดต้นทุนในระหว่างการผลิตได้เป็นอย่างดี เพราะมันคือการขึ้นรูปโครงสร้างตัวถังด้วยวิธีปั๊มเหล็กขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวด้วยแรงดันที่สูงมาก ไม่ว่าจะ ชิ้นส่วนโครงสร้างห้องเครื่องด้านหน้า โครงสร้างห้องโดยสารตรงกลาง และและโครงสร้างห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง รวมถึงชิ้นส่วนแก้มหน้าและแก้มหลัง (แล้วแต่รุ่นรถ)
จึงทำให้ทางผู้ผลิตไม่ต้องเสียเวลาในการต่อไลน์ผลิตประกอบชิ้นส่วนเหล่านั้นเข้าด้วยกันออกไปอีกมากมายนัก และยังไม่ต้องเปลืองชิ้นส่วนน็อตยึดต่างๆ เพราะชิ้นส่วนโครงสร้างเหล่านั้นต่างก็ยึดด้วยกันมาตั้งแต่แรก จนทางวิศวกรของ Toyota เอง ที่เคยเอารถ Tesla Model 3 ไปผ่าศึกษา ก็ยกย่องว่ามันเหมือนกับ “งานศิลปะ” แห่งโลกอุตสาหกรรมยานยนต์
แต่เนื่องจากเครื่องไม้เครื่องมือ และอุปกรณ์ หุ่นยนต์ต่างๆที่ต้องใช้ในการผลิตรถด้วยกรรมวิธีนี้ ไปจนถึงงานออกแบบด้านวิศวกรรม ที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากกว่าปกติ ล้วนมีราคาแพงมากในการสร้าง
จึงทำให้ทาง Tesla ที่โดนลดงบสนับสนุนลง ต้องเลือกที่จะหาวิธีควบคุมต้นทุนระยะสั้นในด้านอื่นๆ ซึ่งนั่นอาจรวมถึงการประกาศพนักงานทั่วโลกกว่า 10% ที่พวกเขาพึ่งประกาศไปเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เพื่อนำเงินมาสร้างโรงงานใหม่นี้ให้ได้ เพราะจะให้รถยนต์รุ่นใหม่ๆของแบรนด์ ไปกวนไลน์ผลิตของรถยนต์รุ่นอื่นๆก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก และจะยิ่งทำให้ยอดการส่งมอบตัวรถของแบรนด์สู่ลูกค้า ที่ยังสนใจในรถยนต์โมเดลหลักๆของแบรนด์ ยิ่งน้อยลงไปอีกนั่นเอง