หลังการเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปลายปี 2022 ล่าสุด Great Wall Motor ก็ได้ยืนยันแล้วว่า ORA 07 หรือ ORA Grand Cat ใกล้พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและวางขายจริงในอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้
ORA Grand Cat ดั้งเดิมมีชื่อตอนที่ยังเป็นรถต้นแบบว่า ORA Lightning Cat ซึ่งมาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องงานดีไซน์ภายนอก ที่เน้นการผสมผสานระหว่างความทันสมัย และคลาสสิคนิดๆไว้ได้อย่างลงตัวเช่นเดียวกับ ORA Good Cat แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างออกไปจากตัวรถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าที่ชาวไทยคุ้นเคยกันมาสักพักอย่างชัดเจนก็คือ การที่มันมาพร้อมกับช่วงท้ายแบบรถฟาสท์แบ็กซีดาน นั่นเอง
นอกจากนี้ ในส่วนรายละเอียดต่างๆรอบๆคันของตัวรถ ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆอีกทั้ง ไฟหน้า LED ทรงกลม พร้อมเทคโนโลยี Intelligent Light ที่ให้ความดูดี แถมลงตัวกับล้ออัลลอยด์ ขนาด 19 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Michellin Pilot Sport EV ซึ่งไม่ใช่ยางที่เน้นการสร้างแรงยึดเกาะเป็นหลักอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะอีกด้วย
และด้วยขนาดมิติตัวรถที่มีด้านยาว 4,871 มิลลิเมตร ตามด้วยด้านกว้าง 1,862 มิลลิเมตร และด้านสูง 1,500 มิลลิเมตร ปิดท้ายด้วย ระยะฐานล้ออีก 2,870 มิลลิเมตร จึงทำให้ภายในห้องโดยสารของมันกว้างขวางเป็นอย่างมาก
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง ORA ยังนำเสนอกระจกรอบคันขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ในการโดยสารสำหรับผู้ที่นั่งอยู่ภายในรถทุกตำแหน่ง โดยที่ชุดคอนโซลด้านหน้าแบบ 2 ชั้น ก็โดดเด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาตรวัดดิจิตอล ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมจอสัมผัส รองรับความบันเทิงขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ซึ่งใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ในการประมวลผล และลำโพง คุณภาพจากแบรนด์ Infinity
ในส่วนระบบความปลอดภัยเอง ก็จะให้มาแบบเต็มๆเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบช่วยการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ ORA-Pilot 3.0 ซึ่งทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รอบคัน 28 ตำแหน่ง, กล้องรอบคัน 10 ตัว, เรดาร์แบบ Millimeter Wave Radar 5 ตำแหน่ง และเรดาห์ Ultrasonic 5 ตำแหน่ง
ฝั่งรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของ ORA Grand Cat คันนี้ หลักๆแล้วก็จะเริ่มด้วยการที่มันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน GWM Lemon E Platform แบบเดียวกับเพื่อนร่วมค่าย ORA Good Cat แต่ในฝั่งขุมกำลังกลับดูน่าสนใจยิ่งกว่า เพราะมีให้เลือก 2 รูปแบบคือ
- รุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร
- รุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังรวมกันสูงสุด 408 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร พร้อมเคลมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.3 วินาที
ด้านแบตเตอรี่ที่ติดรถมา ก็จะมี 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ขนาด 63.9 kWh ที่รองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 450 กิโลเมตรต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP แต่จะมีให้เลือกเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าตัวเริ่มต้นเท่านั้น
ส่วนตัวรถที่ได้แบตเตอรี่ 83.5 kWh หากเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (พร้อมออพชัน Long Range) ก็จะเคลมระยะทางในการวิ่งสูงสุด 600 กิโลเมตรต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP และหากเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็จะมีการเคลมระยะทางวิ่งไกลสุด 450 กิโลเมตรต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP
อย่างไรก็ดี รายละเอียดตัวรถในข้างต้น ยังเป็นรายละเอียดโดยอ้างอิงจากข้อมูลตัวรถในประเทศจีนเท่านั้น จึงทำให้มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางอย่างเมื่อถูกวางนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถยืนยันข้อมูลที่แน่ชัดได้ภายในช่วงไม่เกินกลางเดือนพฤศจิกายน นี้