ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ยังคงซบเซาหนักอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทาง Toyota Motor Thailand ก็ได้มีการออกมาให้ข้อมูลว่าในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมานั้น ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในไทย มียอดการซื้อขายรถเพียง 42,309 คัน ซึ่งถือว่าลดลงจากยอดขายช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมากถึง 31.3% กันเลยทีเดียว
จากการรายงานโดย Toyota Motor Thailand ระบุว่า จากยอดขายรถยนต์ทั้งหมด 42,309 คัน (ของผู้ผลิตทุกแบรนด์) ในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา สามารถแบ่งตลาดตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้ ดังนี้
- ตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวที่ 26.7% ด้วยยอดขาย 18,000 คัน
- ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 34.4% ด้วยยอดขาย 24,309 คัน
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ทำยอดขายได้ 14,435 คัน ลดลง 34.7%
นอกจากนี้ หากมองไปที่ยอดขายรวมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) ในตลาดทั้งหมด ทาง Toyota ก็ระบุว่าจะมียอดขายรถของทุกแบรนด์ ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาทั้งหมด 14,988 คัน คิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดในช่วงเดือนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นเติบโตด้านยอดขายที่ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
และหากแบ่งย่อยยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้ ออกเป็นกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน และกลุ่มรถยนต์พลังงานไฮบริด ก็จะพบว่าในส่วนของรถยนต์ขุมกำลัง HEV จะสามารถทำยอดขายได้ทั้งหมด 8,373 คัน คิดเป็นสัดส่วน 56% ของตลาด xEV ทั้งหมด และมีเติบโตลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนยอดขายรถยนต์ BEV ก็มีตัวเลขอยู่ที่ 5,870 คัน คิดเป็นสัดส่วน 39% จากยอดขายในกลุ่ม xEV ทั้งหมด และถือว่า ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ทาง Toyota ระบุว่า ในเดือนธันวาคมนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ ตลาดรถยนต์ จะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น จากยอดจองทั้งหมดรวมทุกยี่ห้อและประเภทรถยนต์ ที่เกิดขึ้นในช่วงของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 “Thailand International Motor Expo 2024” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา
เนื่องจากในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ เหล่าผู้ผลิตได้มีการทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายโมเดลและมีแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายปลายปีหลากหลายข้อเสนอเช่นกัน จนทำให้มีตัวเลขยอดจองในงานที่สูงถึง 54,513 คัน ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และอาจทำให้ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมาร่วงหนักน้อยลง จากที่ตอนนี้มียอดสะสมตลอดเดือน มกราคม ถึง พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งหมด 518,659 คัน และเท่ากับมียอดลดลง 26.7%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม
ปริมาณการขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,107 คัน ลดลง 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.3%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,874 คัน ลดลง 33.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง
ปริมาณการขาย 18,000 คัน ลดลง 26.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,751 คัน ลดลง 23.4% ส่วนแบ่งตลาด 32%
- อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,829 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%
- อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,461 คัน เพิ่มขึ้น 67.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
ปริมาณการขาย 24,309 คัน ลดลง 34.4%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,356 คัน ลดลง 20% ส่วนแบ่งตลาด 46.7%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 25%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 14,435 คัน ลดลง 34.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,521 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,251 คัน ลดลง 44% ส่วนแบ่งตลาด 36.4%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,954 คัน
- โตโยต้า 1,194 คัน
- อีซูซุ 918 คัน
- ฟอร์ด 640 คัน
- มิตซูบิชิ 149 คัน
- นิสสัน 53 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up
ปริมาณการขาย 11,481 คัน ลดลง 35.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,327 คัน ลดลง 25.2% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,333 คัน ลดลง 45% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 963 คัน ลดลง 34.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม
ปริมาณการขาย 518,659 คัน ลดลง 26.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 199,487 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 67,322 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 13%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง
ปริมาณการขาย 203,421 คัน ลดลง 23.6%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 59,784 คัน ลดลง 35% ส่วนแบ่งตลาด 29.4%
- อันดับที่ 2 ฮอนด้า 41,169 คัน ลดลง 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 20.2%
- อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 16,640 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
ปริมาณการขาย 315,238 คัน ลดลง 28.5%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 139,703 คัน ลดลง 6.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.3%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 26,153 คัน ลดลง 21.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 181,286 คัน ลดลง 39.8%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 82,940 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 45.8%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 67,267 คัน ลดลง 47.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.1%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 19,023 คัน ลดลง 43.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 32,349 คัน
- โตโยต้า 11,476 คัน
- อีซูซุ 11,121 คัน
- ฟอร์ด 7,287 คัน
- มิตซูบิชิ 2,038 คัน
- นิสสัน 427 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up
ปริมาณการขาย 148,937 คัน ลดลง 39.3%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 71,464 คัน ลดลง 26.9% ส่วนแบ่งตลาด 48%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 56,146 คัน ลดลง 47.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,736 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%