Toyota AE86 ถือเป็นรถระดับตำนาน ที่แม้จะผ่านเวลามาเนิ่นนานแต่มันก็ยังคงได้รับความสนใจจากใครต่อใครอยู่เสมอ และตอนนี้มันก็จะได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกขั้น เมื่อทางค่ายนำมันกลับมาเปลี่ยน “หัวใจยุคสมัยใหม่” เข้าไป

ใช่ครับ สำหรับรถ Toyota AE86 ทั้งสองคันที่ทุกท่านเห็นกันอยู่นี้ ไม่ได้เป็นแค่เพียงรถที่ทาง Toyota นำมาจัดแสดงในงาน Tokyo Auto Salon 2023 แค่เพียงเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้หวนคิดถึงเท่านั้น แต่มันยังมาพร้อมกับความน่าสนใจด้วยขุมกำลังที่ถูกปรับแต่ง และปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ของหลายผู้ผลิตรถยนต์ในปัจจุบัน ที่ต้องการจะสร้างภาพในเรื่องของการรักษ์โลก

“มีหลายผู้ผลิตที่ตั้งเป้าว่าสักวันในช่วงปี 2030 ถึง 2040 พวกเขาจะเปลี่ยนไปทำรถยนต์ไฟฟ้าจากพลังงานแบตเตอรี่ทั้งหมดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์, แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้เลยภายในปี 2050 ด้วยการเปลี่ยนรถทุกคันให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า” Akio Toyoda บอสใหญ่ของ Toyota กล่าวในการเปิดตัวรถ AE86 รุ่นพิเศษที่งาน Tokyo Auto Salon 2023

“เราต้องคิดถึงรถที่ใช้งานได้, ในอีกความหมายหนึ่งคือมันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเพิ่มทางเลือกเพื่อรถยนต์ที่ยังคงมีคนครอบครอง(ใช้งาน)มันอยู่ด้วย”

“อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีการแปลง(เครื่องยนต์) รถ AE86 จะต้องผ่านการปรับปรุงและวิวัฒฯในหลายๆด้าน, ด้วยการส่งข้อความของเราไปถึงคนรักรถทุกท่านในวันนี้ ว่า

“ผมอยากจะลบความกลัว ที่ว่าเราจะไม่สามารถขับรถที่เรารักได้อีกต่อไปแล้วเมื่อเข้าสู่โลกของความเป็นกลางทางคาร์บอน ของทุกคนทิ้งไป”

โดยในส่วนข้อมูลเบื้องต้นของ Toyota AE86 Levin BEV ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่นั้น หากมองจากภายนอกจะเห็นได้ว่าทางทีมวิศวกรไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายนอกใดๆของมันแทบทั้งสิ้น นอกไปเสียจากการตกแต่งด้วยชุดบอดี้พาร์ทตรงยุค เสริมด้วยชุดระบบกันสะเทือนจาก Bilstein, ระบบเบรก Endless, ภายในมีพวงมาลัย Nardi และเบาะ Bride พร้อมการเสริมโรลเคจ หรือโครงกันกระแทกภายในห้องโดยสาร ไม่เว้นแม้กระทั่งชุดล้อลายก้านกล้วย Watanabe ขอบ 14 นิ้ว รัดด้วยยาง Bridgestone Potenza RE71RS F ก็ยังใส่มาให้

แต่เมื่อเปิดฝากระโปรงของมันออกมา เราก็จะพบว่าขุมกำลังเครื่อง 4A-GE ของมันได้ถูกถอดออกไปแล้วแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ยกมาจาก Toyota Tundra Hybrid ซึ่งถูกนำมาปรับจูนใหม่ จนได้แรงม้าสูงสุด 92 PS กับแรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร

ขณะที่ตัวแบตเตอรี่เอง ก็จะยกมาจาก Toyota Prius PHEV ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ขนาด 13.6 kWh ที่ไม่สามารถจุไฟได้มากเท่าไหร่นัก แต่ก็พอใช้งานได้ในระยะราวๆ 100 กิโลเมตร ติดไว้ทางด้านหลังของตัวรถ ยังคงขับเคลื่อนล้อหลัง ในรูปแบบ Front Rear และยังมีชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมแป้นคลัทช์ให้ใช้เช่นเดิมอยู่ดี

ส่วนในฝั่ง Toyota AE86 Trueno H2 Concept ก็จะยังคงมาพร้อมกับการตกแต่งชุดพาร์ทต่างๆที่ไม่หนีจากฝั่ง Levin

ทว่าในส่วนขุมกำลังของมัน ก็จะยังคงเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1.6 ลิตร รอบจัด รหัส 4A-GE ลูกเดิม แต่แน่นอนว่าความพิเศษของมันในคราวนี้ก็คือ ทางวิศวกรได้ทำการปรับจูนระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และชิ้นส่วนต่างๆที่เกี่ยวของใหม่ เช่นสายเชื้อเพลิง และหัวเทียน เพื่อให้มันรองรับกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจนแทน

เนื่องจากเครื่องยนต์ยังคงเป็นบล็อคเดิม ดังนั้นทั้งระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนของมันจึงยังคงเดิม แต่สิ่งที่ถูกเปลี่ยนไปเพิ่มเติมก็คือ ถังน้ำมันของตัวรถได้ถูกถอดทิ้งไป แล้วแทนที่ด้วยถังจุก๊าซไฮโดรเจนจำนวน 2 ถังที่ใต้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ นำมาจาก Toyota Mirai นั่นเอง

ทั้งนี้ ทางค่ายยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าพวกเขามีแผนจะวางขายชุดแปลงดังกล่าวออกมาจริงๆตอนไหน แต่ถ้าหากดูจากเทคโนโลยีการแปลงต่างๆที่ใส่เข้าไปแล้ว เชื่อว่าพวกเขายังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกสักพักก่อน ถึงจะขายจริงได้ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการชี้ทางสว่างให้กับใครหลายๆคนมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคนรักรถคลาสสิค หรือรถเก๋าระดับตำนานทั้งหลาย