นับตั้งแต่ปีกลายที่ Toyota Corolla Cross เผยรุ่นปรับโฉมมาจนแฟนๆชาวอเมริกาต่างหลงใหลด้วยหน้าตาที่หล่อไม่บึ้งเหมือนเวอร์ชันไทย
ประเดิมขายครั้งแรกด้วยรุ่นเบนซินล้วน 2.0 ลิตร 170 แรงม้าจากตกระกูล Dynamic Force ไปแล้วมาปีนี้เพิ่มรุ่น Hybrid โดยยังใช้พื้นฐานเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force 152 แรงม้าแรงบิด 190 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 65 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 197 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่มีแรงดันไฟ 216 โวลต์ 6.5 แอมป์ชั่วโมง เพิ่มเซลส์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 180 เซลส์ และความจุแบต 6.5 Ah มาในแบบ Hybrid เจน 5 คู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVTเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four พิเศษตรงที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังมาด้วยให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า
กับหน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชันเบนซินล้วนตั้งแต่ กระจังหน้าออกแบบใหม่ดีไซนช่องระบายอากาศเรียวเล็ก ติดโลโก้สามห่วงพื้นสี้นำเงิน ไฟหน้า LED ในโคมมี Daytime Running Lights นชนหน้าทรงสปอร์ตย้ายตำแหน่งไฟตัดหมอกหน้า LED ออกไปอยู่ชอบกันชนหน้า ล้ออัลอลยขนาด ขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว ให้เลือก ด้านท้ายปรับเปลี่ยนด้วยทั้งไฟท้าย LED Light Guiding สีขาวแดง กันชนหลังออกแบบใหม่
ภายในปรับใหม่มาตรวัดพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ทันสมัยขึ้น หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia 8 นิ้ว ลอยตัว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone เย็นสบายทั้งคันพร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
และความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ Toyota ยืนหนึ่งมาตลอดด้วย Toyota Safety Sense 3.0 พัฒนาใหม่ตั้งแต่ ระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System with Acceleration Suppression and Intersection Cut-In Traffic Assist ตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์ในบางสภาวะแถมจดจำช่องทางได้ ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA), จดจำป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams เป็นต้น
โดยจำหน่ายตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น S, SE, XSE ขายจริงมิถุนายนเริ่มต้น $29,305 หรือราว 999,000 บาท สำหรับเอสยูวีหน้าใหม่จากค่ายสามห่วง