Home » Toyota Fortuner ยุติการขายในนิวซีแลนด์ด้วยเหตุผลด้านการลดมลพิษ
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Toyota Fortuner ยุติการขายในนิวซีแลนด์ด้วยเหตุผลด้านการลดมลพิษ

ข้อจำกัดและนโยบายด้านมลพิษ เป็นหนึ่งในเหตุผลใหญ่ที่ทำให้รถยนต์หลายคันไม่ได้ไปต่อในหลายๆประเทศ และล่าสุดมันก็ได้เกิดขึ้นกับ Toyota Fortuner ในประเทศนิวซีแลนด์

จากการอัพเดทข้อมูลเมื่อไม่กี่วันก่อน พบว่าตอนนี้ทาง Toyota New Zealand ได้มีการถอดเอาหน้าข้อมูลของ Toyota Fortuner ออกจากเว็บไซต์ของตนเองไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งเหตุผลสำคัญของการตัดสินใจในครั้งนี้ ก็คือเรื่องของความพยายามที่จะลดการปลดปล่อยมลพิษสู้ชั้นบรรยากาศ โดยจากนี้จะหันไปมุ่งลุยตลาดรถยนต์ในประเทศด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมกับขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าแทน (HEV/MHEV/PHEV/EV)

“ความมุ่นมั่นของเราคือการขยายพื้นที่ในตลาดยานยนต์ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า และลดการปลดปล่อยมลพิษลงด้วยการจัดสมดุลผลิตภัณฑ์ที่เรามี, เราจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำตลาด Fortuner ต่อไปในนิวซีแลนด์” โฆษก Toyota New Zealand กล่าวในการให้ข้อมูลกับสื่อ Mercury

“ตอนนี้เราได้ขายมันจนหมดแล้ว และมันก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในแผนในอนาคตของเรา นั่นจึงส่งผลให้มันไม่ได้มีชื่ออยู่ต่อในไลน์อัพรถยนต์ของเรา”

ทั้งนี้ สำหรับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างออสเตรเลีย ทางฝั่ง Toyota Australia กลับให้การยืนยันกับสื่อฯท้องถิ่นว่าพวกเขายังคงมีแผนที่จะวางจำหน่าย Toyota Fortuner ต่อไปไม่ใช่แค่ในตอนนี้ แต่ยังรวมถึงในอนาคตด้วย แม้ว่ามันจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ทำยอดขายได้น้อยที่สุดของแบรนด์ก็ตาม

โดยในตลอดปี 2023 ที่ผ่านมา ขณะที่คู่แฝดร่างกระบะอย่าง Toyota Hilux สามารถทำยอดขายได้เป็นเบอร์ต้นๆของประเทศออสเตรเลีย แต่ในฝั่ง Toyota Fortuner กลับสามารถทำยอดขายได้เพียง 3,619 คัน ซึ่งต่างจากคู่แข่งอย่างลิบลับ

ทั้งในฝั่งของ Isuzu MU-X ที่สามารถทำยอดขายในประเทศดังกล่าวได้ทั้งหมด 14,139 คัน ในปีเดียวกัน รวมถึง Ford Everest ที่ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งด้วยยอดขายกว่า 15,071 คันก็ด้วย และเข้าใจได้ว่ามันอาจเป็นกรณีเดียวกันที่เกิดขึ้นในตลาดประเทศนิวซีแลนด์ จึงทำให้ทาง Toyota New Zealand ตัดสินใจเลิกขายไปเลยเสียดีกว่า

อย่างไรก็ดี หากทาง Toyota Australia มีแผนจะวางจำหน่ายในประเทศตนเองต่อไป ก็จะต้องปรับปรุงตัวรถโดยเร็วที่สุดในเรื่องการปลดปล่อยมลพิษ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม ปี 2025 ทางรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย จะมีการบังคับใช้มาตรฐานด้านมลพิษแบบใหม่ นั่นคือ “New Vehicle Efficiency Standard (NVES)”

โดยมาตรฐานมลพิษใหม่นี้ แน่นอนว่ามันย่อมมาพร้อมกับข้อจำกัดด้านการปลดปล่อยมลพิษของรถยนต์ที่เข้มงวดขึ้น แถมยังมีการคิดค่าปรับราวๆ 100 ออสเตรเลียดอลล่าร์ หรือราวๆ 2,300 บาท ต่อหน่วยคาร์บอน 1 กรัม ที่ปล่อยเกินมา ใน 1 กิโลเมตร หากผู้ผลิตยังคงทำตลาดรถที่ไม่สามารถลดการปล่อยมลพิษให้อยู่ในข้อกำหนดได้ด้วย

ซึ่งขุมกำลังดีเซลล้วนเดิมๆของ Toyota Fortuner ก็อาจไม่สามารถถูกปรับจูนให้ผ่านมาตรฐานใหม่นี้ได้ง่ายๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่าอย่างน้อยที่สุด มันก็อาจจะมีการใส่ระบบขุมกำลังแบบ Mild Hybrid เข้าไป เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นใน Toyota Hilux ในยุโรปมาตั้งแต่ปลายปีก่อน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.