จากความสำเร็จในการสร้าง GR Supra, GR86, GR Yaris, และ GR Corolla ล่าสุดทางค่ายก็ได้ออกมาแง้มความเคลื่อนไหวของ Toyota GR-Series โมเดลใหม่ ที่ใส่ขุมกำลังไฟฟ้า 100% กันแล้ว

จากการให้ข้อมูลโดยอดีตประธานกรรมการบริหาร หรือ CEO ของ Toyota ที่ปัจจุบันได้ขยับขึ้นไปเป็นประธานบอร์ดบริหาร อย่างนาย Akio Toyoda ที่ออกมาเปิดเผยถึงโปรเจ็กท์ใหม่ของ Toyota Gazoo Racing ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ ณ ตอนนี้ ว่ามันคือรถยนต์ไฟฟ้า 100% สมรรถนะสูงคันแรกจากตระกูล GR แถมยังมาพร้อมกับระบบเกียร์กระปุกจำลองที่ทางค่ายเคยนำเสนอมันในรถต้นแบบของ Lexus เมื่อปลายปีก่อนด้วย

“ผมได้มีโอกาสไปทดสอบรถไฟฟ้าที่ GR กำลังพัฒนาอยู่แล้ว” Akio Toyoda กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Road & Track “ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้าที่ GR กำลังพัฒนาอยู่ (เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วๆไป) ก็คือการที่คุณจะสามารถได้ยินเสียง เสียงของเครื่องยนต์, แต่คุณจะไม่ได้กลิ่นของน้ำมันเลย”

แน่นอน การจำลองเสียงเครื่องยนต์ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเอาจริงๆ ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รถสปอร์ตบางคันที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกเล็ก ก็อาจมีออพชันจำลองเสียงเครื่องยนต์ V8 ภายในห้องโดยสารให้ผู้ใช้ได้ตื่นเต้นกันมานานหลายปีแล้ว

แต่ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ GR กำลังสร้างอยู่นั้นไม่ใช่ เพราะ “มันมากับระบบเกียร์กระปุก และยังมีระบบคลัทช์ใส่มาให้ด้วย” Toyoda ให้ข้อมูลเสริม ซึ่งทั้งนี้ ระบบเกียร์กระปุกและชุดคลัทช์ที่ว่า ก็ไม่ได้เป็นระบบส่งกำลังที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรง

ทว่าเป็นระบบเสมือน ที่จะมีทั้งคันเกียร์ และแป้นคลัทช์ แล้วทำงานร่วมกับสมองกล ซึ่งจะสั่งการให้มอเตอร์มีลักษณะการทำงาน หรือการเรียกแรง การกระตุก และอากัปกิริยาต่างๆ เหมือนกับรถเครื่องยนต์สันดาปภายในทุกประการ ไม่เว้นแม้กระทั่งการปล่อยคลัทช์เร็วเกินไปขณะออกตัว จนรถดับ ก็ยังมีมาให้

ซึ่งความเหมือนของมัน นาย Toyoda ก็ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ถ้าคุณจับใครสักคนไปนั่งบนรถ แล้วให้เขาลองขับมัน หลังจากนั้นก็ถามว่ามันใช้ขขุมกำลังแบบไหนอยู่, พวกเขาจะไม่สามารถตอบคุณได้แน่นอน” เพราะมันสามารถจำลองการทำงานได้เสมือนจริงมาก

ทั้งนี้ แม้นาย Toyoda จะยอมเปิดเผยว่าตอนนี้ Toyota Gazoo Racing กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงคันดังกล่าวอยู่จริง แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันจะถูกนำมาขายจริงตอนไหน หรือระบุไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันจะถูกนำมาขายจริงมั้ย ?

แต่ “ไม่ว่ามันจะถูกนำมาขายจริงหรือไม่, สิ่งที่บริษัทพยายามจะทำก็คือการลองสร้างแนวคิดต่างๆที่เราคิดว่ามันไม่ควรสูญหายไปต่อให้มันจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็ตาม”