แม้จะเปิดตัวมานาน แต่การเก็บข้อมูลยังดำเนินต่อไป สำหรับว่าที่รถกระบะไฟฟ้าคันแรกของไทยอย่าง “Toyota Hilux BEV” ที่ล่าสุด เตรียมถูกนำไปวิ่งทดสอบในฐานะรถยนต์ขนส่ง ณ เขตตัวเมืองพัทยา ในระยะเวลาอีกไม่นานนักจากนี้
จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อดัง Reuters โดย Pras Ganesh รองประธานของ Toyota Daihatsu Engineering & Manufacturing เปิดเผยว่าในตอนนี้ทางบริษัทกำลังทุ่มทรัพยากรกันอย่างหนักในการพัฒนาและสร้างรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยวิจัยสำคัญจากทั้งหมดห้าแห่งทั่วโลก
โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าโดยหลักแล้วก็เป็นเพราะประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตลาดรถกระบะ(ขนาดกลาง รองรับน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 1 ตัน)ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก และสำหรับทาง Toyota เอง พวกเขาก็ถือเป็นเจ้าตลาดของรถกระบะในไทยเช่นกัน โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2023 พวกเขาสามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปได้ถึง 39%
และแม้จะมีการลงทุนเผยโฉม Toyota Hilux BEV Concept ที่ไทยเป็นเจ้าแรก ตั้งแต่เมื่อปลายปีก่อน ทว่าจนตอนนี้ ตัวรถรุ่นดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลอง
ซึ่งนาย Ganesh ก็ระบุเพิ่มเติมว่าทางบริษัทจะนำรถต้นแบบจำนวนหนึ่ง (ไม่ได้บอกว่ามีกี่คัน) ไปวิ่งทดสอบใช้งานจริงที่เมืองพัทยา ในรูปแบบของรถรับส่งสาธารณะ หรือ รถสองแถว ภายในช่วงต้นปีหน้า โดยคาดว่านี่จะเป็นหนึ่งในการทดสอบที่ดีและเหมาะสมอย่างมากสำหรับตัวรถรุ่นนี้ เพราะจะช่วยให้วิศวกร สามารถเก็บข้อมูล สำหรับปรับปรุงและพัฒนาตัวรถจากการใช้งานจริงได้เป็นอย่างดี
รวมถึงหากมองในอีกมุมแล้ว ก็ดูเหมือนลักษณะการทดสอบนี้ จะเป็นการทดสอบโดยอิงจากรูปแบบการใช้งานของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักด้วย
หรือว่าง่ายๆก็คือ มีความเป็นไปได้สูงที่รถ Toyota Hilux BEV จะถูกสร้างขึ้นมา โดยเน้นตอบโจทย์การใช้งานในเมืองที่มีน้ำหนักบรรทุกเพียงพอประมาณ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัวในครอบครัว หรือ การใช้งานสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก-กลาง ตั้งแต่ การนำไปทำรถรับส่งผู้โดยสาร ดังโจทย์การทดสอบในครั้งนี้ หรือการนำไปทำเป็นรถ Food Truck ซึ่งน่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการได้มากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ หากโปรเจ็กท์ Toyota Hilux BEV ดำเนินไปได้ด้วยดี ยังมีความเป็นไปได้อีกว่ามันอาจจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ที่ถูกผลิตในประเทศไทย เนื่องจากตอนนี้ทางค่ายกำลังพิจารณาถึงการก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราอยู่ เพียงแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะได้คำตอบที่แน่นอนเมื่อไหร่ก็เท่านั้น