ขณะที่หลายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่พากันลดความสำคัญของขุมกำลังสันดาปภายใน และหันไปมุ่งพัฒนาขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่นั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในบริษัทผู้ผลิตยานยนต์อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Toyota
จากการแถลงข่าวในงานประชุม Toyota Group Vision Briefing ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น นาย Akio Toyoda ประธานบอร์ดบริหารของ Toyota Motor Corporation ได้มีการเปิดเผยย้ำให้กับผู้ร่วมงานได้ฟังกันอย่างชัดเจนว่าตอนนี้บริษัทของตนนั้นกำลังมีการพัฒนาเครื่องยนต์ลูกใหม่อยู่จริง ดังที่ตนเคยเกริ่นไว้คร่าวๆเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในงาน Tokyo Auto Salon
จุดน่าสนใจก็คือ แม้การประกาศ “พัฒนาเครื่องยนต์ลูกใหม่” ครั้งนี้ นาย Toyoda จะยังไม่ได้มีการระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นเครื่องยนต์ชนิดไหน (เบนซิน, ดีเซล, หรือ ไฮโดรเจน) แต่อย่างน้อย มันก็ไม่ได้เป็นการพัฒนาเพื่อปรับปรุงเครื่องยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แบบเดียวกับที่ผู้ผลิตค่ายอื่นทำกันเพียงเพื่อยื้อชีวิตขุมกำลังเหล่านั้นไว้ให้ยังสามารถไปต่อได้ ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคสิ้นสุดแล้วเปลี่ยนผันไปเป็นขุมกำลังไฟฟ้า 100% ดังที่ใครหลายคนคาดการณ์
แต่เป็นการ “สร้างเครื่องยนต์ลูกใหม่” ขึ้นมาเลยต่างหาก เพื่อให้ขุมกำลังชนิดนี้ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อีกไกลในอนาคต
แน่นอน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็จะสอดคล้องกับแนวคิดของนาย Akio Toyoda ที่ระบุว่าโดยส่วนตัวแล้ว
แม้หน่วยรัฐในหลายๆประเทศทั่วโลก จะมีนโยบายต่างๆมากมาย ที่เป็นการบีบให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเลิกทำขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน เช่น นโยบายแบนเครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ นโยบายอุดหนุน ไม่ก็ลดหย่อนภาษี ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำราคาใด้ใกล้เคียงหรือดีกว่ารถยนต์สันดาปภายใน จนทำให้ตอนนี้มีหลายผู้ผลิตนับสิบราย ที่ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะผันตัวไปเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แต่ในสายตาของ Toyota มีการประเมินไว้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า จะสามารถกินส่วนแบ่งทางการตลาดในอนาคตได้เพียงไม่เกิน 30% เนื่องจากยังมีผู้ต้องการใช้รถยนต์อีกมาก ที่ไม่สะดวกจะใช้งานยานพาหนะชนิดนี้
และนั่นก็เท่ากับว่าพวกเขายังคงมองว่าขุมกำลังแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะยังคงมีอนาคตต่อไป เพราะพวกมันก็ยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายๆกลุ่มได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มที่ต้องการใช้งานรถเชิงคมนาคม ขนส่ง การพานิชย์ และที่สำคัญสุดเลยก็คือ มันยังมีทางออกที่ทำให้ขุมกำลังชนิดนี้ ปล่อยมลพิษออกมาต่ำไม่แพ้ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ดังที่ภาครัฐหลายๆแห่งประเมินเอาไว้ด้วย
“รถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า ไม่ได้บ่งบอกว่ามันคือทางเดียวที่จะทำให้เรามุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน, เราจะยังคงผลิตเครื่องยนต์ต่อไป เพราะมันยังมีบทบาทที่สามารถใช้งานได้จริงในการมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” นาย Toyoda กล่าว