หนึ่งในผู้ผลิตที่เอาจริงเอาจังกับการทำรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าใครคือ Volvo และล่าสุด พวกเขาก็ได้มีการประกาศเตรียมเลิกขายเลิกผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอีกต่อไป และจะมีผลทันทีภายในสิ้นปีนี้
จากการให้สัมภาษณ์กับ Climate Week NYC สำนักสื่อฯด้านสิ่งแวดล้อมแห่งเมืองนิวยอร์ค Volvo ได้มีการเปิดเผยและยืนยันอย่างชัดเจนว่า ภายในช่วงไม่เกินต้นปี 2024 หรือต้นปีหน้า ทางแบรนด์จะยุติการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล
ซึ่งเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญ สำหรับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น ภายในปี 2030 และนอกจากนี้ยังเป็นเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดและมีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2040
ซึ่งเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน เมื่อทาง Volvo ได้มีการขายหุ้นทั้งหมดของ Aurobay ทิ้งไป โดยที่บริษัทแห่งนี้ถือเป็นบริษัทที่รับผิดชอบในด้านการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในของทางค่ายมานาน นั่นจึงหมายความว่า ตอนนี้ทางค่ายไม่ได้มีการทุ่มงบให้กับการพัฒนาเครื่องยนต์ทั้งฝั่งเบนซิน หรือดีเซลอีกต่อไปแล้ว
นอกจากนี้ Jim Rowan ผู้เป็น CEO ของ Volvo ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อ Climate Week ถึงความจริงจังในการทำรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์เพิ่มเติมอีกว่า “ระบบขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าคืออนาคตของเรา และมันเหนือกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในมาก, มันสร้างเสียน้อยกว่า, มีการสั่นสะเทือนน้อยกว่า, มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่าสำหรับลูกค้าของเรา, และมีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์” Rowan กล่าว