ในบรรดารถยนต์ที่มีอายุอานามไม่เก่ามาก ตอบโจทย์ได้ครบเครื่องตรงความต้องการ ในยุคอเนกประสงค์มาครองใจครองเมือง Chevrolet Captiva อาจจะเป็นรถที่หลายคนลืมเลือนไปแล้ว ด้วยการห่างหายจากตลาดเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา
การเข้ามาของ Chevrolet Captiva ผู้เล่านจากประเทศอเมริกา เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในรถยนต์อเนกประสงค์ในช่วงปี 2012 พวกเขาก้าวไปสุ่ยุคใหม่ ที่ทำให้วันนี้เราได้ออพชั่นมาตรฐานดีๆ ต่างๆมากมาย ส่วนหนึ่งก็มาจากแคปติว่าเช่นกัน
การพัฒนารถยนต์ คอมแพ็คครอสโอเวอร์ เชฟโรเล็ต แคปติว่า มาจากการเข้าไปคุมกิจการแดวูในเกาหลีใต้ ผลผลิตของ Chevrolet รุ่นนี้จึงมาจากความเป็นรถเกาหลีด้วยส่วนหนึ่ง แต่เหยาะความเป้นอเมริกันเข้าไป
ในเกาหลีใต้ รถรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า Daewoo Winstorm แต่ในตลาดอื่นๆ นอกจากแดนกิมจิ Chevrolet ตั้งชื่อให้ว่า Captiva มันเริ่มเข้ามาขายในไทยในปี 2006 โดยรุ่นแรก จะเป็นหน้าตาแหลมๆ คล้ายทรวดทรงการออกแบบในยุคนั้น ยังไม่โดนตาโดนใจผู้ใช้เท่าไรนัก
แต่ก็เป็นรถในตัวเลือกสมัยอเนกประสงค์ยังไม่นิยมอย่างดี ด้วยออพชั่นที่ให้มาครบเครื่องไม่ว่าจะระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว , ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ไปจนถึงออพชั่นพิฆาตคู่แข่ง อย่างเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่มีมาให้ตั้งแต่เริ่มวางขายเป็นไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้คู่แข่งหน้าใหม่ หรือแข่งรายเดิมเปลี่ยนรุ่นใหม่ จำต้องยัดเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่งมาให้ลูกค้ากัน
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคอมมอนเรล เป็นครอสโอเวอร์รุ่นแรกที่มีเครื่องยนต์บล็อกนี้ก่อนยุค Honda CR-V ดีเซลปัจจุบัน ในรุ่นแรกที่วางขายในปี 2007 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แต่ก้ถือว่าเหนือชั้นมากแล้ว เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตอนนั้น
ข้อดีของ Chevrolet Captiva ข้อสำคัญทางหนึ่ง คือมันเป็นอเนกประสงสคืที่ขับดีในท้องตลาด รถมาพร้อมระบบช่วงล่างแบบด้านหน้าแม้คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังใชัมัลติลิงค์ มีดิสก์เบรก 4 ล้อ และในรุ่นท๊อปออพชั่น LTZ มาพร้อมระบบ AWD แบบ Real Time ทำงนเมื่อตรวจพบการลานไถลช่วยให้ประหยัดน้ำมันด้วย
Captiva ทำตลาดมาเรื่อย แต่ไม่ได้มียอดหวือหวา ส่วนหนึ่งในเวลานั้นยังไม่มีใครคิดถึง Crossover มาก และประกอบกับเชฟวี่ เพิ่งเข้ามาทำตลาด เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า ที่เข้ามายาวนานและ Honda CR-V คนรู้จักอย่างกว้างขวางมากกว่า แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ชื่นชอบรถรุ่นนี้
จนในสายตานักข่าวหลายคน นี่เป็นหนึ่งในรถที่พลิกฟื้นเชฟโรเล็ตจนมีที่ยืนในใจหลายคน และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญรถรุ่นอื่นๆ อย่าง Chevrolet Cruze, Chevrolet Spin ในเวลาต่อมา
ปี 2012 Chevrolet Captiva ได้รับการพัฒนาสู่รุ่นที่ 2 โดยใจความหลักในรุ่นนี้คือการเปลี่ยนหน้าตาตัวรถให้น่าสนใจขึ้น หรือแทบจะพูดกันว่าเป็นการไมเนอร์เชนจ์ตัวรถมากกว่ แต่ก็เป็นการไมเนอร์เชนจ์ในประวัติศาสตร์ท่ำให้คนรู้สึกหวือหวากับการแต่งหน้าทาปากที่ออกมาราวกับเป็นรถคันละคัน
หน้าตาใหม่ของ Chevrolet Captiva ออกมาดูหรูหราน่าสนใจ ด้วยกระจังหน้าแบบ Dual Port ใหม่ แบบลายรังผึ้งให้ความรู้สึกสปอร์ต จนบางคนยังชอบหน้าตัวนี้มากกว่าตัวใหม่ที่ทำออกมาในตอนหลัง
การเปลี่ยนแปลงหน้าตาอย่างทุ่มทุน ชนิดยกเซทกระชับริ้วรอย ทำให้รถรุ่นนี้ขายดีเข้ามาอยู่ในสายตาลูกค้า รวมถึงการเป็นรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมการออกแบบตัวรถทันสมัยสปอร์ต ติดตั้งล้ออัลลอยตั้งแต่ 17 ไปจนถึงสูงสุดขนาด 19 นิ้ว นอกจากนี้ยังให้ไฟตัดหมอก หน้า-หลัง ท่อไอเสียคู่
อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ด้วยระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ , ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ในความสบายในการขับขี่คนขับได้เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางมีที่ดันหลัง หรือ Lumbar Support มาให้ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control
จุดเด่นในรุ่น 2011-2014 คือ การเปิดกระจกบานหลัง สามารถเปิดแต่กระจก หรือจะเปิดประตูท้ายทั้งบานก็ได้ ซึ่งรุ่นหลังออพชั่นนี้ถูกตัดออกไป
ที่โดดเด่นคงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยที่ถือว่าจัดเต็มมากในยุคนั้น โดยเฉพาะระบบถุงลมนิรภัยพร้อมม่านนิรภัย ถือว่ามากที่สุดในอเนกประสงค์ รวมถึงฟังชั่นอย่างระบบควบคุมการทรงตัว ,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี,ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วลงทางลาดชันช่วยตอบโจทย์ในการขับขี่อีกด้วย
สาเหตุที่ Chevrolet Captiva เริ่มถูกเฟดออกไป เนื่องจากการมาของรถยนต์ Chevrolet Trailblazer ซึ่งทางเชฟโรเล็กดูเหมือนจะต้องการเน้นขายรถรุ่นนี้มากกว่า โดยมองถึงความเหมาะสมต่อการใช้งานในประเทศไทย ถึงขนาดทางเชฟวี่จ้าง คุณโชค บุลกุน เจ้าของฟาร์มโชคชัยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ Trailblazer
นอกจากนี้ด้วยอายุอานาม ถ้านับตั้งแต่ตัวรถ 2006 จนมาถึงการเปลี่ยนรุ่น ก็เป็นระยะเวลา 6-7 ปี แล้ว จึงมีความเก่าอยู่บ้างในบางการออกแบบ ซึ่งแม้จะมีการพยายามพัฒนามาเรื่อย ก็พอจะทำให้ลูกค้าสนใจได้บ้าง ประกอบกับมีผู้แข่งหน้าใหม่ Nissan Xtrail เข้ามาทำตลาด และให้หลังรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Subcompact Crossover เริ่มเปิดตลาด ทำให้ความนิยมรถรุ่นนี้เสื่อมถอยลงไปตามลำดับ จนในวันนี้รุ่นใหม่ที่การอัพหน้าขั้นสุด อาจจะยังมีหลงในสต็อกบางโชว์รูมบ้าง
จากที่มีโอกาสขับ Chevrolet Captiva ข้อดีของ คือมันเป็นรถที่ขับมั่นใจค่อนข้างมาก เป็นรถที่ให้ความลงตัวในเชิงความหรูหราทันสมัย ไม่ดูบ้านๆพร้อมระบบความปลอดภัยที่ถือว่าครบเครื่อง และยังไม่ล้าสมัยแม้จะในปัจจุบัน
ทำให้คู่แข่งหลักอย่าง Honda CR-V เมื่อเปิดรุ่นใหม่ในเจนเนอร์เรชั่นที่ 5 จะเห็นได้ว่ามีความหรูหราทันสมัยมากขึ้น แถมยังมีความคล้ายกันอย่างเช่นการมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร และมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเป็นรุ่นท๊อป พร้อมเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง เล่นตีตอกตะปูเชฟโรเล็ตอยู่หมัด จนคนเริ่มลืมชื่อเสียงในอดีตไปแล้ว
ทุกวันนี้รถอเนกประสงค์ Chevrolet Captiva หายไปจากตลาดและความคิดคนไทย ตามสมัยนิยมด้วยคู่แข่งมีรุ่นใหม่เข้ามา ในขณะที่เชฟวี่ประกาศจะเอาดีด้านนี้กลับปล่อยรถดีหลุดมือไป ทั้งที่เป็นกระแสนิยมมีกำลังซื้อในระดับหนึ่งถ้าพร้อมที่จะทำตลาดด้วยรุ่นใหม่ที่ออพชั่นอัดแน่นเต็มเยียด ซึ่งเชฟวี่มีรถกลุ่มนี้ดีๆ ในเมือที่เมืองนอก เอาเข้ามาขายบ้างก็น่าจะดี
ภาพ Chevrolet Captiva รุ่นปี 2014 / ปี 2013
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”726″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]