กลายเป็นกระแสที่ทำให้บริษัทรถยนต์ต้องคิดไม่น้อยหลัง 2-3 ปีที่ผ่านมา รถยนต์อเนกประสงค์กลุ่ม MPV เติบโตอย่างต่อเนื่องแบบที่ไม่เคยมีปรากฎการณ์นี้มาก่อนในไทย
การเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง ปีทีผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการมีคู่แข่งผู้เล่นใหม่สู่ตลาด โดยเฉพาะ Mitsubishi X Pander หลังจากตลาดเริ่มขยับตัวหลังการเข้ามาของ Toyota Sienta ตั้งแต่ 2-3 ปี ก่อน และในปีนี้การของ Suzuki Ertiga ก็กลายเป็นทำยอดขายถล่มทลายจองส่งกันมือเป็นระวิง
ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ Compact MPV ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการปลดล็อคจากภาวะจำยอมต้องถือครอง 5 ปีของรถคันแรก และลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการรถยนต์แบบใหม่ๆ ขยับจากขนาดเดิม มาสู่ขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากภาวะชีวิตที่เปลี่ยนไป ทั้งในการใช้ชีวิต และหรืออาจจะมีคนที่รักครอบครัวเพิ่ม เมื่อประกอบกับความเป็นจริงว่า สังคมไทย เริ่มก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้รถคันต่อไปอาจจะเล็งไว้เพื่ออำนวยความสะดวกครอบครัวทุกมิติ ทั้งพาเด็กๆ ไปโรงเรียน และรับส่งพ่อแก่ แม่เถ้าไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่รถ MPV ที่ขายส่วนใหญ่ในวันนี้ล้วนเป็นกลุ่มขนาด Mini -MPV หรือรถที่พัฒนาจากรถขนาดเล็ก และในอดีตเราเคยมีรถยนต์ MPV ขนาดคอมแพ็ค ก่อนจางหายไปเมื่อ 6-7 ปีก่อนหน้านี้
ตลอดคอมแพ็ค MPV เกิดขึ้นในไทย ในช่วงต้นยุค 2000 ช่วงต้นยุคนี้ ด้วยทางเลือกในตลาดที่มีไม่มากนัก โดยเฉพาะ ถ้าคุณ เป็นครอบครัวใหญ่ ต้องการหารถ 7 ที่นั่งไว้ใช้งาน ถ้าไม่มองไปยังตลาดรถหรู เรียกว่าไม่มีทางที่คุณจะขนครอบครัวไปพร้อมหน้าพร้อมตากันได้เลย
เวลานั้นรถยนต์อเนกประสงค์เองก็มีเพียง 5 ที่นั่ง แถวรถในช่วงต้นยุค 2000 อย่าง Isuzu Vega , Toyota Sport Rider และ Mitsubishi Strada G Wagon ก็ไม่ได้ถูกจริงคนมีรถเก๋งนัก แถมคุณภาพการขับขี่และการโดยสารยังไม่ดีเท่าวันนี้ แรงผลักดันดังกล่าวทำให้ รถ MPV สำหรับคนทั่วไปพอจะอาจเอื้อเกิดขึ้น
ผู้เปิดเกมตลาดคอมแพ็ค MPV เป็นค่ายรถยนต์อเมริกา Chevrolet ในฐานะเด็กใหม่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (บริษัท เชฟโรเล็ต เซลล์ ประเทศไทย จำกัด เปิดทำการ ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2543) ปีนั้น มีการจัดงาน Boi fair 2000 ในเดือนกุมภาพันธ์ ในฐานะบริษัทรถยนต์น้องใหม่ ก็เผยโฉม พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร และนำเข้ามาประกอบในประเทศไทยทันที ปีถัดมาเชฟวี่เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ใช้เครื่องยนต์ Z22SE Ecotec ให้กำลัง 144 แรงม้า แรงบิด 203 นิวตันเมตร
จุดเด่นรถรุ่นนี้คือการออกแบบในสไตล์ยุโรปมาจาก Opel บริษัทในเครือ General Motor บางกระแสว่าในโครงการพัฒนารถรุ่นนี้ในยุคนั้น มีการร่วมงานกับปอร์เช่ในด้านการออกแบบทำให้รูปลักษณ์ออกมาสวยลงตัวน่าใช้งาน ไม่ดูเก่าเร็ว เป็นรถที่หลายคนว่ายังน่าใช้ถ้าซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ไหว รวมถึงช่วงล่างสไตล์ยุโรป และ ที่นั่ง Flex Seat 7 ที่นั่ง บางคนว่ามันยังนั่งสบายมาจนถึงวันนี้
แต่สาเหตุหลักที่รถรุ่นนี้มาถึงฝั่งไทยได้ เนื่องจากสัญญาณระหว่าง GM และ พระนครยนตรการสิ้นสุดลง (ขาย Opel) การนำรถ Opel Astra เข้ามาขาย ไม่น่าจะสู้คู่แข่งได้ จึงผลิตขายเอง ที่สำคัญ รถที่ผลิตจากโรงงานในไทย ยังถูกแปะตราส่งไปขายญี่ปุ่นด้วยในนาม Subaru Traviq
การมาของ Chevrolet Zafira สร้างความตื่นตัวต่อตลาดไม่น้อย ทำให้ Honda ในฐานแบรนด์รถยนต์เจ้าตลาดรถนั่งเริ่มสนใจรถกลุ่มนี้ พวกเขานำเข้า Honda Stream จากประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากแดนอิเหนาเป็นตลาดรถยนต์ MPV ใหญ่ที่สุดในโลก
รถรุ่นนี้เข้ามาขายในไทยช่วงปี พ.ศ. 2543 หลังจากซาฟิร่าเปิดตัวขายไม่นาน ด้วยจุดเด่นเครื่องยนต์อันทันสมัย เครื่อง K20A1 ทำกำลังถึง 156 แรงม้า ให้แรงบิด 190 นิวตันเมตร พ่วงด้วยเกียร์ ออโต้ 5 สปีด ถือว่ามีสมรรนถะและความก้าวหน้าทางด้านสมรรถนะมากกว่า มันน่าจะเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าสาวกฮอนด้า ทว่าด้วยคุณภาพงานประกอบอินโดนีเซียที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้รถรุ่นนี้ไม่ได้รับความนิยมอย่างที่ควรจะเป็น
สาเหตุหนึ่งมาจากคู่แข่งรายสำคัญ Toyota เห็นกระแสความนิยมจึงบินไปขอรถยนต์ MPV จากญี่ปุ่นมาขายในไทยบ้าง พวกเขาได้ Toyota Wish จากฝีมือการออกแบบของ ทาเคชิ โยชิดะ คนเดียวกับที่ออกแบบ Toyota Corolla รุ่นหน้าหมู มาขาย
เวอร์ชั่นในไทยเจ๋งกว่าญี่ปุ่นเล็กน้อย ด้วยปีกนกอิสระ 2 ชั้น ทุกรุ่น (ญี่ปุ่นมีเพียงรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ) และติดตั้งเครื่องยนต์ 1AZ-FE เปิดตัวด้วยราคาขาย 1.117 ล้านบาท -1.267 ล้านบาท ปัจจุบันมือสองมีราคาสนนที่ 3-4 แสนบาท ก็ยังได้รับความสนใจจากคนที่มองหารถสำหรับครอบครัว
ช่วงคึกคัก Compact MPV ในปี 2001-2005 เริ่มถดถอยลง หลังบริษัทรถยนต์แถวหน้าของเมืองไทย แนะนำรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ออกจำหน่าย โดยเฉพาะ Isuzu Mu 7 และ Toyota Fortuner มีการปรับหน้าตาให้โดนใจ เซทช่วงล่างโดยสารสบายขึ้นกลายเป็นที่ชื่นชอบทำให้ตลาดรถ Compact MPV ถดถอยตามลำดับ
แต่รถกลุ่มนี้ก็ยังขายไปเรื่อยๆ ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Toyota Wish ขายจนถึงปี 2010 ลาจากด้วยรุ่น Sport Touring II และสาเหตุที่ไม่กลับเข้ามาขายอีก เนื่องจากยอดขายปลายโฉมไม่ดีนัก
ส่วนทางฮอนด้ากลับเข้ามาอีกครั้งด้วย Honda Freed ใหม่ รถ MPV ประตูสไลด์ไฟฟ้ารุ่นแรก ในช่วงปี พ.ศ.2551 อานิสงค์จากอินโดนีเซีย ก็ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิม เนื่องจากกระแสความนิยมของรถ SUV 7 ที่นั่ง บวกกับลูกค้าไม่เห็นความสำคัญประตูสไลด์ไฟฟ้า และหลายคนวิจารณ์ถึงราคาขายที่ค่อนข้างแพง ทำให้ Honda Freed ไม่เข้ามาขายในไทยอีก หลังจากเลิกขายในปี 2016
นอกจากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ ยังมี Proton Exora รถยนต์จากประเทศมาเลเซียเข้าร่วมศึกนี้ในเวลาช่วงสั้นๆ แตกต่างด้วยเครื่องยนต์ 1.6 เทอร์โบ มีราคาขายยที่ถูกกว่าเจ้าตลาดพอสมควร
ปัจจุบัน Compact MPV ในตลาดประเทศไทย มีเพียง 3 รุ่นเท่านั้น (แบ่งตามขนาดความยาวตัวรถ4.3-4.7 เมตร ) คือ Toyota Innova , Suzuki Ertiga และ Mitsubishi Xpander แตกต่างจากกลุ่ม Mini MPV ตรงผู้ใหญ่สามารถโดยสารได้ในทุกที่นั่ง และมีพื้นที่สัมภาระท้ายเหลือเพียงพอสำหรับสัมภาระทุกคน
แต่น่าแปลกใจว่า ในกลุ่มขนาด 4.5-4.7 เมตร ปัจจุบันมีเพียง Toyota Innova เท่านั้น และมันพัฒนาภายใต้โครงสร้างแบบ Body On frame ราคา รถปัจจุบันเริ่มต้นที่ 1.129 บาท และ 1.2 ล้าน สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย)
ดังนั้นที่ตรงนี้ยังว่างสำหรับ Compact MPV ขนาด 4.5-4.7 เมตร ไม่มีผู้เล่นในตลาดรายใดลงมาทำตลาดกลุ่มนี้ มันกลายเป็นหลุมดำที่รอวันว่าจะมีใครไหมกลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังกระแสรถ MPV เริ่มกลับมาเป็นที่ต้องการจากคนไทยอีกครั้ง