ย้อนไปยุคปี 2000 หนึ่งในโรดสเตอร์ที่มีคนพูดถึงมากก็เป็นคันไหนไปไม่ได้ นอกจาก Honda S2000 ที่เกิดมาเพื่อสืบสานตำนานรถเปิดประทุนอย่าง S800 ในยุคปี 1960
สมัยที่รถยนต์ยังมีประเภทกับชนิดไม่หลากหลายเหมือนปัจจุบัน รถสปอร์ตเปิดประทุน หรืออีกชื่อเรียกว่า โรดสเตอร์ ถือเป็นเป้าหมายลำดับแรกๆ ของคนวัยแรงที่อยากได้มาครอบครอง ด้วยความสวยงามปราดเปรียว ขับไปไหนก็มีแต่คนเหลียวหลังมอง ซึ่งที่กล่าวมา Honda S2000 จากค่ายฮอนด้ามีให้ครบถ้วน โดยวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับเจ้าโรดสเตอร์รุ่นตำนานกันพอหอมปากหอมคอ
การเกิดขึ้นของ Honda S2000 รหัส AP1 มีจุดหมายเพื่อสืบทอดตำนานของ Honda S800 โรดสเตอร์รุ่นตำนานที่ออกขายในปี 1966-1970 ที่ญี่ปุ่น ซึ่งสมัยนั้น S800 เกิดมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทญี่ปุ่นก็สามารถสร้างรถเปิดประทุนที่สวยงามและมากด้วยสมรรถนะ ได้ไม่แพ้ค่ายรถจากตะวันตก อย่าง MG Midget, Triumph Spitfire และ Fiat 850 Spider
โดยในปี 1995 ฮอนด้าเคยจัดแสดงรถต้นแบบในงาน Tokyo Motor Show และหลังจากนั้นปี 1999 พวกเขาก็เปิดตัว S2000 เพื่อฉลองแบรนด์ฮอนด้าครบรอบ 50 ปี ส่วนคำถามว่าทำไมจึงใช้ชื่อนี้ ก็เพราะ S ย่อมาจาก Sport cars ส่วน 2000 นั้นสอดคล้องกับขุมพลังเบนซินไร้ระบบอัดอากาศ NA ขนาด 2,000 ซีซี ที่วางอยู่ในฝากระโปรงหน้ารถ
จุดเด่นของ S2000 โฉมแรก AP1 เริ่มด้วยขุมพลังหลักเครื่องเบนซิน 4 สูบเรียง DOHC รหัส F20C ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 241-250 ตัว (PS) ที่ 8,500 รอบต่อนาที แรงบิด 208-218 นิวตันเมตร ที่ 7,500 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตัวเครื่องวางหน้าแต่ส่งกำลังไปขับหลัง หรือเรียกว่า FR แถมยังให้ระบบลิมิเต็ดสลิปอยู่ที่เฟือยท้ายหลังอีกด้วย
หากสงสัยว่าเวอร์ชั่นตลาดไหนในโลกที่แรงสุด คงหนีไม่พ้นตัวขายญี่ปุ่น (JDM = Japanese Domestic Market)ที่พกม้า 250 ตัว แรงบิด 218 นิวตันเมตร มีแรงบิดม้า 125 ตัวต่อขนาดความจุ 1 ลิตร กับอัตราส่วนการจุดระเบิดที่ 11.7:1 แถมด้วยการติดตั้งระบบคันเร่งแบบ DBW (drive-by-wire) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ทำอัตราเร่งได้ดีเยี่ยม และเหมาะสมกับทุกตำแหน่งเกียร์
ด้วยความที่มันเป็นรถเปิดประทุน วิศวกรจึงทำให้ S2000 มีโครงสร้างตัวถังแข็งแกร่งเป็นพิเศษกว่ารถคูเป้หลังคาปิด ด้วยการใช้พื้นตัวถังแบบ high X bone frame เพื่อทำให้ตัวรถมีอุโมงค์เพลากลาง พร้อมเชื่อมโครงสร้างทั้งหน้าและหลังให้อยู่ในระนาบเดียวกัน จนมีลักษณะคล้ายกับตัว X
ความแจ่มจรัสต่อมาเป็นเรื่องที่เจ้าโรดสเตอร์คันนี้จัดวางน้ำหนักหน้าหลังได้สมดุล 50/50 แถมมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ CG ช่วงล่างหน้าและหลังใช้แบบดับเบิ้ลวิชโบน อิสระครบทั้ง 4 ล้อ ขณะเดียวกัน พวงมาลัยก็เป็นแบบไฟฟ้า และยังติดตั้งหลังคาผ้าใบเปิดปิดด้วยไฟฟ้า
อายุของ S2000 (AP1) เริ่มขายตั้งแต่ปี 1999-2003 มีการปรับไมเนอร์เชนจ์เล็กน้อยตอนปี 2001 กับ 2002 และหลังจากนั้นในปี 2003 ทางฮอนด้าได้ใช้ก็เริ่มปล่อย S2000 (AP2) ที่มาพร้อมเครื่องเบนซิน 4 สูบเรียง DOHC ขนาด 2.0 ลิตร รหัส F22C1 ออกขายที่ญี่ปุ่นและตลาดทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยเราประชากรของ Honda S2000 มีจำนวนน้อยนิด ไม่เหมือนคู่แข่งอย่าง Mazda MX-5 ที่ปัจจุบันยังมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกขายอยู่ นับเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เจ้าโรดสเตอร์รุ่นนี้ต้องหยุดผลิตไปในปี 2009 ปิดตำนานรถเปิดประทุนของฮอนด้าไปตลอดกาล
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com [ngg src=”galleries” ids=”1140″ display=”basic_thumbnail”]